ดีเอสไอ สั่งฟ้องบริษัทดัง ฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุนปลูกไม้กฤษณา มูลค่าความเสียหายกว่า 152 ล้านบาท นำสำนวนพร้อมผู้ต้องหาส่งอัยการแล้ว
วันที่ 21 ก.ย.2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 38/2563 กรณีบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง โฆษณาชักชวนให้ประชาชนนำเงินมาลงทุนซื้อต้นไม้กฤษณาจากบริษัท กำหนดลงทุนขั้นต่ำ 100,000 บาท ซึ่งจะต้องลงทุนน้อยสุด 10-20 ต้น สูงสุดไม่เกิน 400 ต้น ตกลงจ่ายผลตอบแทนร้อยละ 14-20 และบริษัทจะรับซื้อคืนต้นกฤษณาทั้งหมดภายใน 6 ปี ผู้ลงทุนจะได้รับต้นทุนและผลตอบแทนคืนในคราวเดียวกัน
ดีเอสไอ สั่งฟ้องบริษัทดัง ฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุนปลูกไม้กฤษณา มูลค่าความเสียหายกว่า 152 ล้านบาท
ซึ่งเป็นการปลูกต้นกฤษณาในที่ดินของบริษัทเอง จะมีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลควบคุมคุณภาพ ต้นไม้ของผู้ลงทุนจะมีหมายเลขกำกับ สามารถตรวจสอบได้ บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO ในการบริหารจัดการโรงกลั่นน้ำมันกฤษณา โดยจัดให้พนักงานขายพาประชาชนไปดูแปลงปลูกต้นกล้าไม้กฤษณาและต้นใหญ่ตามแปลงที่ปลูกไว้แล้ว 2-3 แปลง นำเอกสารของผู้ลงทุนรายอื่นหลากหลายอาชีพ
เช่น ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร แพทย์ ฯลฯ มาแสดงเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนจริง ซึ่งบริษัทไม่สามารถดำเนินกิจการตามที่กล่าวอ้างได้ และจากการหลอกลวงข้างต้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุน จำนวน 105 ราย มูลค่าความเสียหาย 152,249,745 บาท
จากการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้อง โดยอธิบดีดีเอสไอมีความเห็นควรสั่งฟ้องบริษัทดังกล่าว กับพวก ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 12 มาตรา 15 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 342 มาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มอบหมายให้ น.ส.ปริมณ์ สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 38/2563 จำนวน 35 แฟ้ม จำนวน 12,051 แผ่น พร้อมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ในวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
