น้ำ จิราพร เผยเพื่อไทยดันอุตสาหกรรมซีรีส์วาย เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เดินหน้าสมรสเท่าเทียม กล่าวในงาน FEE:D Y CAPITAL 2nd

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.66 ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 งาน FEED Y CAPITAL 2nd เมืองหลวงซีรีส์วาย ครั้งที่ 2 จัดขึ้นโดย FEED สื่อไลฟ์สไตล์ภายใต้เครือมติชน ขนทัพนักแสดงซีรีส์วาย และศิลปิน T POP อัดแน่น พร้อมมอบความสุขให้เหล่าแฟนคลับอย่างจัดเต็ม

หนึ่งในไฮไลต์ของงานคือ การมอบรางวัลทรงคุณค่าจาก FEED เพื่อเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนซีรีส์วายไทยไปสู่ตลาดโลก ประกอบด้วย รางวัลซีรีส์ Y แห่งปี ,รางวัลนักแสดงคู่ Y แห่งปี และรางวัลผู้กำกับซีรีส์ Y แห่งปี

แต่ที่พลาดไม่ได้คงเป็น น้ำ-จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย และช่อ-พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ที่จะมาสนทนากับผู้ชมในประเด็น “พลังของ “ซีรีส์วาย” ในสังคมวัฒนธรรมไทย และโอกาสในอุตสาหกรรมความบันเทิงโลก”

เริ่มจาก น้ำ-จิราพร เผยว่า วันนี้มาในฐานะ พรรคเพื่อไทย และสาววาย ตอนนี้ซีรีส์วายมาไกล จากใต้ดินมาสู่อุตสาหกรรมสตรีมมิ่งและเป็นสิ่งที่ปังแล้ว ปังอยู่ปังต่อ ซีรีส์วายสร้างมูลค่าพันล้าน กลายเป็นธุรกิจวายอีโคโนมี่ จำนวนซีรีส์วายที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาแค่ 3 ปี เติบโต 270 % สะท้อนฐานคนดูที่เพิ่มขึ้น โดยประเทศไทยผลิตเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ได้รับการจับตามองอย่างมาก

น้ำ-จิราพร เผยว่า ซีรีส์ไทยได้รับการเผยแพร่ไปหลายประเทศ และได้ฉายในสตรีมมิ่งจีนที่ฐานคนดูสูงมาก ซึ่งศิลปิน ดารา นักแสดง สามารถสร้างมูลค่าสูงมาก สามารถเป็นแบรนแอมบาสเดอร์แบรนดังระดับโลก จะเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะใส่สิ่งที่เป็นไทย เช่น อาหารไทยลงไป หรือเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะร่วมมือกับรัฐบาลโปรโมตการท่องเที่ยว และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะร่วมกันบอกโลกว่า เราไม่ได้ขี่ช้างเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของประเทศไทย

“เพื่อไทยร่วมพูดคุยกีบอีกหลายอุตสาหกรรมที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เรากำลังจะเอาทฤษฎีมาทำให้เกิดได้จริง ซึ่งเป็นการตกผลึกของพรรคเพื่อไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อุตสาหกรรมนี้เกิดการพัฒนา พรรคเพื่อไทยได้ผลักดัน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งจะตั้งหน่วยงานชื่อ THACCA เพื่อผลักดันบุคลากรสู่อุตสาหกรรม สร้างการทำงานระหว่างภาครัฐกับเอกชน ซึ่งจะตั้ง THACCA โดยมี พ.ร.บ. รองรับ เพื่อไม่ให้การทำงานสะดุดลง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล พร้อมตั้งเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟต์พาวเวอร์ขึ้นมา ซึ่งซูเปอร์บอร์ดจะประชุมวันที่ 3 ต.ค.นี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในอนาคต

พรรคเพื่อไทยพยายามตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จที่สุด เพื่อทำให้กฎหมายการสมรสเท่าเทียมทำงานได้ทัน แต่ในอนาคตก็จะยังเดินหน้าทำงานต่อไป เพื่อให้เกิดขึ้นได้จริง








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน