ตร.ประชุมคดี เอ็มฆ่าลูก ชี้อาจเข้าข่าย ฆาตกรต่อเนื่อง เตรียมแจ้งข้อหา ค้ามนุษย์เพิ่ม ลุยเข้าสอบในเรือนจำ เค้นความจริง อีก 2 ศพที่เอาไปทิ้ง

วันที่ 23 ก.ย.2566 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. กล่าวถึงคดีนายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือเอ็ม ที่ก่อเหตุฆ่าลูกของตัวเอง 5 คนด้วยกันว่า เจ้าหน้าที่เตรียมตรวจสอบว่าพฤติกรรมของเอ็มนั้น จะเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่

โดยเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ทางนิติเวชแจ้งว่ากระดูกที่ขุดพบในท้องที่สน.สายไหมนั้น ไม่ใช่กระดูกมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องมาวางแผนกันใหม่ โดยฝ่ายสืบสวนได้ซักถาม น.ส.เจษฎา ภรรยาอีกคนของเอ็ม ว่าจำจุดที่ทิ้งศพเด็กทั้ง 4 คนได้หรือไม่

ทั้งนี้ 2 จุดแรกนั้น นำไปทิ้งในพื้นที่สน.บางซื่อ น.ส.เจษฎา สามารถชี้ได้ตรงจุด ต่อมาจุดที่ 3 และ 4 นั้น เมื่อตรวจกระดูกแล้ว ไม่ใช่ของมนุษย์ จึงต้องให้ผู้ต้องหามายืนยันจุดทิ้งให้แน่นอน เพราะสภาพทางกายภาพก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว จากเดิมให้การว่ามีศาลพระภูมิและป่ากก แต่เมื่อเทียบแผนที่กับทางกูเกิ้ล พบว่าเป็นปั๊มน้ำมันไปแล้ว

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไปยังรพ.ภูมิพลและนิติเวชรพ.ตำรวจ ว่ามีการแจ้งพบศพนิรนามหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจฐานข้อมูลดีเอ็นเอ นายเอ็มและน.ส.เจษฎา เพื่อหาความเชื่อมโยงพ่อกับลูก มีตรงกันเพียง 2 ศพ คือที่สน.บางซื่อเท่านั้น

เมื่อตรวจสอบไปยังฐานข้อมูลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ก็ไม่พบฐานข้อมูลความสัมพันธ์พ่อแม่ลูกของนายเอ็มและน.ส.เจษฎา เจ้าหน้าที่จึงต้องลงพื้นที่ไปจุดคัดแยกขยะในอ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพราะเป็นจุดที่รถขยะเอาขยะ เอาไปไว้ที่บริเวณดังกล่าว หลังไปคัดแยกที่แถวท่าแร้ง พื้นที่สน.คันนายาว ซึ่งถุงดำที่เก็บมานั้น อาจจะมีศพเด็กปนไปด้วย ถ้าใครเห็นหรือให้ข้อมูลในช่วงปี 2559 กับ2561 นั้น ก็แจ้งตำรวจมาได้

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้สอบถามลูกสาววัย 12 ปี ของน.ส.เจษฎา ได้ให้การว่า ตอนเอาศพไปทิ้งนั้น นายเอ็มและน.ส.เจษฎา จะไปด้วยกันทุกครั้ง โดยเอากล่องพลาสติกสีดำไปวางไว้ ไม่ได้ฝัง แต่ลูกสาวของทั้งสอง ให้การจุดทิ้งไม่ตรงกัน บอกว่าอยู่ใกล้กับรพ.ประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าจะตามหาศพเด็กทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่แน่นอน

จากการตรวจสอบพฤติกรรมนายเอ็มนั้น พ่อของผู้ต้องหารายนี้เล่าว่า ในปี 2540-2546 ลูกชายเคยบังคับน้องสาวกินสารพิษ ถ้าไม่กินก็จะโดนทำร้ายร่างกาย ตนทราบเรื่องได้เข้าไปเตือน แต่กลับถูกอีกฝ่ายเอามีดไล่แทง จึงต้องไปแจ้งความ และตัดขาดพ่อลูกกันตั้งแต่ตอนนั้น

โดยภรรยาคนที่ 1 ของนายเอ็มให้การว่า ช่วงคบหากัน ปี 2545-2549 ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ ส่วนภรรยาคนที่ 2 ที่คบหากันปี 2552 แต่ไม่มีลูกด้วยกันให้การว่า ได้ถูกเอ็มใช้มีดจี้บังคับให้ไปจดทะเบียนสมรส แถมยังทำร้ายร่างกาย จนต้องแกล้งสลบ เพื่อจะได้รอดตาย ปัจจุบันยังไม่ได้หย่าร้างกัน ส่วนเมียคนที่ 3 ให้การว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

จนนายเอ็มมาคบกับน.ส.เจษฎา เมียคนที่ 4 มีลูก 5 คน ตาย 4 ชีวิต และน.ส.สุนัน เมียคนที่ 5 มีลูก 3 คนนั้น ทางแม่ของภรรยาคนที่ 5 ได้พาลูกคนสุดท้องมาฝากตนเลี้ยง แต่พบบาดแผลที่นายเอ็มทำร้าย เพราะเขาโมโหง่าย เคยพูดกับน.ส.สุนันว่า กูไม่ชอบ กูไม่สนเด็กผู้ชาย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยมาเยี่ยม และส่งเสียค่าเลี้ยงดู นี่จึงสอดคล้องว่าทำไมเด็กชายถึงต้องจบชีวิตสลดแบบนี้

สำหรับประเด็นเรื่องการค้ามนุษย์นั้น ทางเด็กได้อยู่ในความดูแลของกระทรวงพม.แล้ว ยังไม่พร้อมให้ปากคำ ตำรวจพบว่าในปี 2564-2565 เด็กที่นายเอ็มเอามาเลี้ยงนั้น ยังปกติ แต่มีเชื้อราที่ปาก น.ส.เจษฎาก็สงสัย จึงเอายาม่วงมารักษา ถามเอ็มกับน.ส.สุนัน ก็ไม่ตอบ

หลังจากนี้ตำรวจจะเข้าไปสอบปากคำเอ็มเพิ่มในคุก และรอผลตรวจจากแพทย์ว่าสาเหตุอาการป่วยเกิดจากอะไร หากพบว่านายเอ็มทำร้ายลูกจนปากแหว่งพิการ แล้วเอาไปแสวงหาผลประโยชน์ ก็จะทำการคัดแยกเหยื่อ หากพบว่าเข้าองค์ประกอบค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินคดี โดยน.ส.เจษฎา จะมีความผิดด้วย เพราะเป็นคนเปิดเฟซบุ๊กรับบริจาค

จากนั้นในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ตำรวจสน.บางเขนจะไปพบนายเอ็ม เพื่อแจ้งข้อหาทำลูก 2 คนเสียชีวิต ในพื้นที่สน.บางซื่อ ซึ่งเกิดเหตุปี 2559 กับ2561 ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน