‘เศรษฐา’ ปาฐกถา Next Chapter ประเทศไทย ปลุกยอมรับเปลี่ยนแปลง เพื่ออยู่รอด ย้ำช่วยลดความเหลื่อมล้ำ คุยด้วยภาษาที่ยอมรับกันได้ไม่ขัดแย้ง

เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 29 ก.ย.66 ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมงานเสวนา “ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ โดยมี น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารเครือมติชน และผู้บริหารกองบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจ รวมทั้งวิทยากร นักธุรกิจที่เข้าร่วมงานเสวนา ให้การต้อนรับ

จากนั้นคณะผู้บริหารเครือมติชนเชิญนายเศรษฐา นายกฯ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมวิทยากร และผู้บริหารภาคธุรกิจร่วมรับประทานอาหารเช้า พร้อมพูดคุยหารือร่วมกัน

ต่อมาเวลา 09.10 น. ที่ห้อง แกรนด์ฮอลล์ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต) นายเศรษฐากล่าวปาฐกถาพิเศษ “Next Chapter ประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า เป็นคนที่ชัดเจนมาโดยตลอด ถ้าคนที่รู้จักตนจะรู้ว่าเป็นคนที่พูดน้อยและให้ได้ใจความ เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ตนก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่เราเองต้องมีการปรับปรุงตัวเพื่อให้ลดความขัดแย้งลงไปจากการพูดจา ที่พูดอาจจะพูดเป็นเหมือนเป็นคอนเซ็ปต์ หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจ ก็จะขอยกตัวอย่างโดยที่ไม่ได้ต้องการจะไปว่า หรือตอบโต้กับใครทั้งสิ้น ในเรื่องของการที่เราใช้คำว่าปฏิรูป สังคายนา ล้างบาง ขอยกตัวอย่างเป็นคำพูดอย่างนี้แล้วกัน

นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าทุกๆ คนก็มีความภาคภูมิใจและความหวังดีต่อองค์กรของตัวเอง เข้าใจว่าทุกองค์กรมีคนดี คนไม่ดี แต่การที่เราใช้คำพูดที่รุนแรง วิธีการที่ก่อให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกที่ชัดเจนมันเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหรือเปล่า หรือการแก้ปัญหามันอยู่ที่การกระทำ ไม่ได้อยู่ที่การพูด ซึ่งตนเชื่อว่าอยู่ที่ส่วนหลัง มันอยู่ที่การกระทำและวิธีการในการทำ

“การเอาสถาบันต่างๆ มาพูดในที่สว่าง มีคำพูดที่รุนแรง ผมเชื่อว่าไม่เป็นการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาคือการที่พูดคุยกันในภาษาที่ทุกคนยอมรับได้ แต่ไปเน้นหนักเรื่องการกระทำ เรื่องกระบวนการในการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้สังคมดีขึ้น ผมเชื่อว่าผมไม่ต้องพูดเยอะในเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนตระหนักดีอยู่แล้ว” นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าทุกๆ คนก็มีความภาคภูมิใจและความหวังดีต่อองค์กรของตัวเอง เข้าใจว่าทุกองค์กรมีคนดี คนไม่ดี แต่การที่เราใช้คำพูดที่รุนแรง วิธีการที่ก่อให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกที่ชัดเจนมันเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหรือเปล่า หรือการแก้ปัญหามันอยู่ที่การกระทำ ไม่ได้อยู่ที่การพูด ซึ่งตนเชื่อว่าอยู่ที่ส่วนหลัง มันอยู่ที่การกระทำและวิธีการในการทำ

“การเอาสถาบันต่างๆ มาพูดในที่สว่าง มีคำพูดที่รุนแรง ผมเชื่อว่าไม่เป็นการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาคือการที่พูดคุยกันในภาษาที่ทุกคนยอมรับได้ แต่ไปเน้นหนักเรื่องการกระทำ เรื่องกระบวนการในการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้สังคมดีขึ้น ผมเชื่อว่าผมไม่ต้องพูดเยอะในเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนตระหนักดีอยู่แล้ว” นายเศรษฐากล่าว

อ่านข่าว เศรษฐา ร่วมเวทีประชาชาติธุรกิจ ถอดรหัสลงทุน บิ๊กธุรกิจคับคั่ง Breakfast Talk กับนายกฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน