บุกรวบ “หมวย” หนึ่งในทีมช่วย เสี่ยแป้ง นาโหนด แหกคุกหนีจากโรงพยาบาล ตำรวจควบคุมตัวเค้นสอบ พบผู้ต้องขังมีอาวุธสงครามติดตัว ฮึดสู้ จนท.ยิงได้ทันที

จากกรณี นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษคดีใหญ่หลายคดีในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี 6 เดือน อยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ขณะเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนติดตามทั้ง เสี่ยแป้ง และทีมงานที่ให้การช่วยเหลือในการหลบหนีอย่างต่อเนื่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

บุกรวบ "หมวย" หนึ่งในทีมช่วย เสี่ยแป้ง นาโหนด แหกคุกหนีจากโรงพยาบาล ตำรวจควบคุมตัวเค้นสอบ

บุกรวบ “หมวย” หนึ่งในทีมช่วย เสี่ยแป้ง นาโหนด แหกคุกหนีจากโรงพยาบาล ตำรวจควบคุมตัวเค้นสอบ

ล่าสุดวันที่ 24 ต.ค.2566 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ได้จับกุมทีมงานที่ช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง ได้แล้ว 1 ราย คือ นางยุวเรศ หรือ หมวย (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ที่โอนเงินให้กับ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม (ขอสงวนนามสกุล) ที่ถูกจ้างวานให้เฝ้าเสี่ยแป้งที่โรงพยาบาลโดยจับกุมตัวได้ที่ จ.พัทลุง และถูกควบคุมตัวไปที่บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ระหว่างนั้นนางยุวเรศยังไม่ยอมพูดหรือให้การแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้วรวม 4 ราย คือ เสี่ยแป้ง, น.ส.วิลาวัลย์, นายจีรวุฒิ หรือ ปอย, นายจักรี หรือ บิ๊ก และ นางยุวเรศ และสามารถจับกุมตัวได้แล้ว 2 คน คือ น.ส.วิลาวัลย์ และ นางยุวเรศ ยังเหลืออีก 3 คน คือ เสี่ยแป้ง, นายจีรวุฒิ และ นายจักรี ที่ยังหลบหนีอยู่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังออกไล่ล่าอย่างหนัก

โดย น.ส.วิลาวัลย์ และ นางยุวเรศ นั้นถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันกระทำการด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หลุดพ้นจากการคุมขังไป” โดยการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.วิลาวัลย์ ให้การภาคเสธ ส่วนนางยุวเรศยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานรัดกุมและมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีทั้ง 2 ได้อย่างแน่นอน

สำหรับเหตุการณ์เสี่ยแป้งหนีจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชนั้น เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 21 ต.ค.66 เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏเวลาชัดเจน ขณะที่นายเชาวลิตและนายจีรวุฒิออกจากลิฟต์หลบหนีเวลาอยู่ที่ 00.06 น. ดังนั้น จะมีการเรียกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาสอบข้อมูลอีกครั้ง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงที่ได้รับแต่งตั้งจากกรมราชทัณฑ์เข้าติดตามสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว

นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ในแวดวงราชทัณฑ์ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ข้อสังเกตเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ หรือผู้คุมที่มาปฏิบัติหน้าที่เฝ้าเสี่ยแป้งมีอยู่ด้วยกัน 6 คน มีหัวหน้าชุด สั่งงานให้แบ่งเวลาใครอยู่ช่วงเวลาไหน และมีข้อสังเกตว่าเหตุใดกลางวันบางคนจึงต้องขออยู่เพียงคนเดียว มีการเปลี่ยนโซ่กุญแจข้อเท้าเป็นการเอื้อให้มีการหลบหนีหรือไม่ และกว่าจะแจ้งความเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง หากสอบข้อมูลลงลึกจะพบพิรุธในส่วนนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบฐานความผิดทางวินัย

สำหรับพฤติกรรมของนายเชาวลิตในเรือนจำ ถือเป็นขาใหญ่ มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่งที่มีการฝากฝังให้ดูแลนายเชาวลิตเป็นพิเศษ เนื่องจากนายเชาวลิตเสมือนเป็นมือขวาคนสำคัญ การเดินทางออกจากเรือนจำโดยอ้างเหตุป่วยเพื่อไปหาหมอนั้น จึงเป็นเรื่องที่ทำได้สะดวกกว่านักโทษรายอื่น

ส่วนการติดตามไล่ล่า นายเชาวลิต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองกำกับการ 6 กองบังคับการกองปราบปราม ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัด คือ พัทลุง ตรัง สตูล และพบด้วยว่าขณะนี้นายเชาวลิตมีอาวุธปืนสงครามติดตัว หากเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะมีการยิงต่อสู้ โดย พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รักษาการผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังสูงสุด และหากมีการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันตัวได้ตามสถานการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน