สาวโวยหน้าพัง จมูกติดเชื้อ-แก้ไป 16 ครั้ง หลับตาไม่สนิท ช็อกซ้ำประวัติหมอ เตรียมนำผลตรวจแจ้งความกองปราบปราม รวมถึงจะไป สคบ.และสบส.

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ และเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม น.ส.น้ำ อายุ 37 ปี และน.ส.เต้ อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากถูกแพทย์ศัลยกรรมชื่อดัง ที่เคยทำคนไข้เสียชีวิตจากการดูดไขมันและพ้นโทษแล้ว กลับมารับจ้างเป็นหมอทำศัลยกรรมอีกครั้งที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง จนทำคนไข้หน้าพังเสียโฉมหลายรายและไม่รับผิดชอบ

น.ส.น้ำ กล่าวว่า ตนเห็นรีวิวจากคนที่รู้จักไปทำหน้าผากที่คลินิกดังกล่าวมา เห็นว่าสวยดี จึงสนใจไปแก้จมูกเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2565 เป็นเคสรีวิวในราคาพิเศษ 25,000 บาท หลังทำ 7 วันถอดเฝือก เห็นว่าทรงไม่สวย จึงแจ้งไปยังหมอ โดยหมอแนะว่าต้องมาแก้ มีการถอดซิลิโคนเข้าออกถึง 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ และแก้ไขซ้ำๆ มาต่อเนื่อง รวมแก้จมูกทั้งหมด 16 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งจมูกติดเชื้อ ได้แจ้งหมอ ซึ่งหมอได้ให้ไปซื้อยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อมาฉีดเอง 7 ขวด ฉีดวันละ 1 ขวด แต่ไม่มีการถอดพักจมูก ยังคงรักษาต่อ ซึ่งตลอดเวลาการแก้จมูก ตนเคยทักท้วงหมอไปแล้ว แต่หมอบอกว่า “เดี๋ยวจะดีขึ้นเอง เพราะเคสเรา เป็นเคสที่แก้ยาก เพราะพื้นฐานจมูกไม่สวย”

“จากนั้นเราได้ไปแก้จมูกกับหมอคนดังกล่าวครั้งสุดท้าย เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แล้วไม่ดีขึ้นเลย จึงตัดสินใจบอกกับหมอว่า ขอยุติการรักษา เพราะทำไปแล้วไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง เสียทั้งค่าเดินทาง เจ็บตัว และที่ผ่านมาเราต้องโดนไล่ออกจากงาน เพราะลาเยอะ ส่งผลเสียต่อชีวิต ปัจจุบันไม่กล้าเจอหน้าคน ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา จากคนที่หน้าตาปกติ กลายเป็นคนที่ต้องใส่หน้ากากตลอดชีวิต“

หลังจากแจ้งขอยุติการรักษา หมอปัดความรับผิดชอบ โดยบอกว่าที่แก้จมูกให้ไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเกินกว่าค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับคลินิกแล้ว ดังนั้นจึงอยากร้องเรียนขอให้หมอช่วยเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อจะไปรักษาที่อื่น เนื่องจากไม่อยากให้หมอคนเดิมมาแก้ให้อีกแล้ว

น.ส.น้ำ กล่าวอีกว่า หลังแก้จมูกครั้งที่ 5-6 ได้เช็กประวัติหมอ พบประวัติหมอเคยทำคนไข้เสียชีวิตและติดคุก รู้สึกตกใจ แต่ก็ถอนตัวไม่ได้ เพราะคิดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะเห็นว่าหมอยังสามารถกลับมาทำอีกได้

ด้านน.ส.เต้ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนได้ไปทำตา 2 ชั้น และทำโครงหน้า กรอโหนกแก้ม กรอข้างแก้ม เลื่อนไรผม โดยหมอกรีดหนังหัว ถลกหนังหัวเลื่อนลงมา และกรีดในปาก โดยหมอใช้เพียงยาชา แต่ไม่ใช้ยาสลบ โดยศัลยกรรมปรับโครงหน้าทำครั้งแรกเมื่อเดือนพ.ค.2566 หลังทำเสร็จพบว่าโหนกแก้มปูด

หลังจากนั้นไปทำตา 2 ชั้น เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2566 แต่ทำมาแล้วกลับผิดพลาด แผลไม่สวย ตาผิดรูป ไม่เท่ากัน จึงแจ้งหมอ หมอให้กลับไปแก้ จึงไปแก้ตารอบ 2 ไปแก้เมื่อ 27 ต.ค.2566 แต่กลับผิดพลาดมากกว่าเดิม ตนถามหาความรับผิดชอบ เพราะไม่อยากแก้กับหมอคนเดิมแล้ว แต่หมอบอกว่าต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำแล้วสวยได้เลยใน 1-2 วัน ส่วนตัวเสียค่าใช้จ่ายปรับโครงหน้าทั้งหมด 103,000 บาทและทำตาอีก 21,000 บาท

ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อชีวิต เห็นแผลเป็นชัดเจน หน้าพัง ได้ไปทำซีทีสแกนพบข้างในพัง หน้าเป็นหลุม ตาไม่ปกติ เป็นแผลเป็นตลอดชีวิต อ้าปากกว้างไม่ได้ หลับตาไม่สนิท น้ำตาไหลตลอดเวลา และโดนลมไม่ได้ และยกแขนสูงไม่ได้ เพราะวันแก้ตา หมอผ่าตัดเอาไขมันจักกะแร้มาเติมที่ตา จึงอยากทราบว่าทางการแพทย์สามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่

“ส่วนตัวอยากหมอให้รับผิดชอบค่าเยียวยา เพื่อตนจะได้นำไปรักษาที่อื่น และให้ปิดคลินิก เพราะไม่อยากให้ทำกับคนอื่นอีก พร้อมอยากทราบว่าทำไมหมอยังกลับมาทำอีกได้ ทั้งที่เคยติดคุกมาแล้ว ซึ่งหลังจากที่หมอปัดความรับผิดชอบ จึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงในติ๊กต็อก ซึ่งก็มีผู้เสียหายทักมาจำนวนมาก”

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย เพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการประกอบคดี และจะไปแจ้งความที่กองปราบปราม รวมถึงจะไป สคบ.และสบส. เพื่อเข้าไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าวว่าได้มาตรฐานหรือไม่ พร้อมฝากไปยังแพทยสภาว่า เหตุใดจึงยังไม่มีการเพิกถอนใบอนุญาตกับแพทย์คนดังกล่าว เพียงแค่พักใบอนุญาตเท่านั้น

ซึ่งกรณีดังกล่าวจะแจ้งความแพทย์คนดังกล่าว หากเป็นหมอจริงจะเป็นข้อหากระทำการประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และหากเป็นหมอเถื่อนจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย

ด้านน.ส.ศรินทิพย์ เวนไรท์ แอดมินกลุ่มสวยบอกต่อเจ้าของเพจป้ายยาความสวย กล่าวว่า เป็นผู้รับเรื่อง 2 เคสนี้ โดยส่งไปให้แพทย์ประเมินแล้ว สำหรับผู้เสียหายที่ทำตา 2 ชั้นและปรับโครงหน้า แพทย์แจ้งว่าตาเกิดการหดรั้งของชั้นตา ทำให้มีปัญหาหลับตาไม่สุด และกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย ซึ่งการรักษาต้องใช้แพทย์เฉพาะทาง โดยแพทย์จะทำการแก้ไขให้ครั้งแรกในสัปดาห์นี้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการใช้ชีวิต และจะผ่าตัดอีกครั้ง 6 เดือน แต่ทำได้แค่ดีขึ้น คนไข้จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม 100%

ส่วนแพทย์ประเมินผ่าตัดหน้าผากยกคิ้ว เป็นการผ่าตัดที่ไม่ถูกต้อง และมีแผลโดยใช่เหตุ กระดูกหน้าปูดขึ้น โครงหน้ามีปัญหา จะต้องเอกซเรย์เพื่อประเมิน ซึ่งต้องใช้เวลารักษาเป็นปี รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 2 ล้าน

ส่วนผู้เสียหายที่เสริมจมูกผิดพลาด ได้ส่งเรื่องไปให้แพทย์ประเมินแล้ว และได้ทำการเพาะเชื้อว่าเกิดจากอะไร พบว่ามีการติดเชื้อเรื้อรัง อาจติดเชื้อจากการใช้เนื้อเยื่อเทียม และผ่าตัดแก้ไขบ่อยครั้งในระยะเวลา 1 ปี กรณีดังกล่าวประเมินค่าใช้จ่ายมากกว่า 2 ล้าน ทำได้แค่ผ่าตัดแก้ไข ซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 ปี จึงจะแก้แล้วเสร็จ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน