บุกจับ “เสืออ้อย” อดีตทหารรบพิเศษ มือปืนบัญชีดำ ลำดับที่ 105 ถล่มยิงอริแก๊งยานรก ปี 63 ก่อนหลบหนีคดีมาเป็นฤาษี เจ้าตัวให้การภาคเสธ
วันที่ 10 พ.ย.2566 พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม ส.ท.เมธฤต หรือ เสืออ้อย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูนที่ จ.221/2563 ลงวันที่ 4 พ.ย.63 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครอง” ได้ที่ถนนภายในซอยหมู่บ้านลุงปุง ม. 2 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
บุกจับ “เสืออ้อย” อดีตทหารรบพิเศษ มือปืนบัญชีดำ ลำดับที่ 105 ถล่มยิงอริแก๊งยานรก ปี 63 ก่อนหลบหนีคดีมาเป็นฤาษี
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ส.ค.2563 มีกลุ่มคนร้าย 5 คน ใช้อาวุธปืนสงครามกระหน่ำยิง นายมณฑล และ น.ส.อราชัญ (ขอสงวนนามสกุล) จนบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดริมถนนทางหลวงชนบท บ้านสันวิไล ม. 17 ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะหลบหนีไป ส่วนเหตุน่าจะมาจากปมขัดแย้งผลประโยชน์ยาเสพติดกับนายทุนชาวเขาเผ่าลีซอ ที่ว่าจ้างกลุ่มมือปืนมาก่อเหตุ
ต่อมาหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุไว้ได้ 2 คน ก่อนสอบสวนขยายผลจนทราบว่า ส.ท.เมธฤต ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นอดีตทหารจบหลักสูตรรบพิเศษ “เสือคาบดาบ” เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ
และยังเป็นมือปืนตามประกาศสืบจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 ลำดับที่ 105 ก่อนทราบว่าหนีมาเปิดสำนักฤาษี ไว้หนวดเครา ผมยาวรุงรัง เล็บยาวสีแดงเหมือนฤาษีกายแก้ว อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนกัมพูชาด้านจ.สุรินทร์ จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การภาคเสธ อ้างว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิง แต่ยอมรับว่าอยู่ร่วมกับกลุ่มมือปืนขณะก่อเหตุจริง เพราะเพื่อนชวนติดรถไปทำธุระด้วยเท่านั้น จึงนำตัวส่ง สภ.ลี้ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
