จากกรณี ด.ช.วัย 14 ก่อเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าพารากอน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย โดยล่าสุด อัยการคดีเยาวชนตีกลับสำนวน เด็ก 14 ยิงพารากอน ชี้ แจ้งข้อหามิชอบ
ทั้งนี้ตามขั้นตอนของกฎหมาย พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ได้ส่งคืนสำนวนให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน
โดยในวันที่ 31 ธ.ค. ครบกำหนดผัดฟ้อง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจะมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ตามที่ได้นำเสนอข่าวก่อนหน้านั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 31 ธ.ค. นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และในฐานะโฆษกกรมพินิจฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ด.ช.14 ยังรักษาตัวและประเมินสุขภาพจิตที่สถานพยาบาล สถาบันกัลยาณ์ ยังไม่มีการส่งรายงานความเห็นวินิจฉัยมายังกรมพินิจฯ
ส่วนการปล่อยตัวเนื่องจาก ครบกำหนดผัดฟ้อง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งสำนวนต่ออัยการไม่ทัน ภายในเวลา 16.30 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจะต้องออกหมายปล่อยตัวชั่วคราว เพราะหน่วยงานไม่มีอำนาจคุมตัวเด็กไว้ แต่หากแพทย์มีความเห็นว่า ต้องประเมินสุขภาพจิตต่อเนื่อง ก็จะขอรับตัวเด็กไปเป็นผู้ป่วยตามเดิม
พ.ต.ท. ประวุธ วงศ์สีนิล. อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า ได้รับการประสาน จากทางพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวแล้วว่า พนักงานสอบสวน ไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเติม เพื่อส่งอัยการ สั่งฟ้องต่อศาล ให้คดีดังกล่าวได้ทัน จึงใช้วิธีการตามป.วิ อาญา งดการสอบสวน
ดังนั้นกรมมพินิจฯก็ไม่สามารถควบคุมตัวได้ตามกฎหมาย ซึ่งอำนาจการควบคุมตัวจะครบกำหนดเวลา เที่ยงคืนนี้ อย่างไรก็ตามกรมพินิจฯได้ประสานให้พ่อแม่ของเด็กไปที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ในวันพรุ่งนี้ ( 1 ม.ค.) เวลา 10.00 น. เพื่อทำแผนประกอบการรักษาอาการป่วยของเด็ก โดยจะมีรองอธิบดีกรมพินิจฯพร้อมด้วยพ่อแม่ และ แพทย์
ด้าน พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (รอง ผบก.น.6) ให้สัมภษณ์กับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากมีประเด็นว่าโฆษกกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ระบุว่าศาลเยาวชนอาจออกหมายปล่อยตัว “ด.ช.14” มือยิงพารากอน เนื่องจากตำรวจส่งสำนวนไม่ทัน
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตรวจส่งสำนวนทั้งหมดไปให้อัยการเรียบร้อยแล้ว แต่อัยการคืนสำนวนมา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากแพทย์มีความเห็นว่า เด็กอายุ 14 ปี ยังคงต้องรักษาตัวก่อนไม่สามารถไปต่อสู้คดีได้
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า แต่ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งหนังสือไปหาสถาบันกัลยาณ์ เพื่อให้รับตัวไว้รักษาต่อ แต่จะปล่อยหรือไม่ปล่อยนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ว่าจะให้เด็กรักษาตัว เป็นผู้ป่วยใน รักษาที่สถาบันกัลยาณ์ต่อ หรือจะกลับบ้าน และไปรักษาตัวที่อื่น ซึ่งเป็นดุลยพินิจของแพทย์
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีหากแพทย์มีความเห็นว่าสามารถต่อสู้คดีได้ ช่วงที่รักษาตัวก็พักคดีไว้ก่อน งดการสอบปากคำ แต่กระบวนการสอบสวนมันเสร็จสิ้นไปแล้ว
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวด้วยว่า หากแพทย์ลงความเห็นว่าสามารถต่อสู้คดีได้ ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องไปสอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากว่า ที่สอบปากคำมา อัยการมองว่า เด็กอายุ 14 ปี ไม่สามารถให้รายละเอียดในวันเกิดเหตุได้ อ้างว่า จำเรื่องราวไม่ได้เลย
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน จะต้องนำส่งสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการให้ทันก่อนศาลปิดทำการ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งสำนวนต่ออัยการไม่ทัน ภายในเวลา 16.30 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจะต้องออกหมายปล่อยตัวชั่วคราวนั้น
สำนวนดังกล่าว คือสำนวนเดียวกันที่ถูกอัยการส่งกลับมาตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.ที่ผานมา ทั้งนี้ จะปล่อยตัวเย็นนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์