เจเจ-ต้าเหนิง ร้องตำรวจ เอาผิด ผจก.ศิลปิน นำข้อมูลบริษัทไปเผยแพร่จนได้รับความเสียหาย เชื่อมีคนในร่วมด้วย ยันใครเอี่ยวโดนด้วย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ม.ค.2567 ที่ศูนย์รับเเจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง นายกฤษณภูมิ พิบูลสงคราม หรือ เจเจ และ น.ส.กัญญาวีร์ สองเมือง หรือ ต้าเหนิง พร้อม นายสาคร ศิริชัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท คิว โอ ดับบลิว ศรีเอชั่น เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มสิริลักษณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งเอาผิด นายชิตกณ (สงวนนามสกุล) ผู้จัดการศิลปินบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่านำข้อมูลความลับทางการค้าของบริษัทฯออกมาเปิดเผย ทำให้ได้รับความเสียหาย
นายสาคร กล่าวว่า นายชิตภณ นำข้อมูลซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อันเป็นความลับทางการค้าของบริษัท ไปเปิดเผยให้กับบุคคลอื่น จนเป็นเหตุให้ข้อมูลดังกล่าวสิ้นสภาพเป็นความลับทางการค้า เป็นเหตุให้บริษัทฯ รวมถึงนายกฤษณภูมิ และน.ส.กัญญาวีร์ ได้รับความเสียหาย
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความลับทางการค้า พ.ศ. 2545 มาตรา 33 บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดเปิดเผยความลับทางการค้าของผู้อื่นให้เป็นที่ล่วงรู้โดยทั่วไปในประการที่ทำให้ความลับทางการค้านั้นสิ้นสภาพการเป็นความลับทางการค้าโคยเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้ควบคุมความลับทางการค้าได้รับความเสียหายในการประกอบธุรกิจฯ“ ระวางโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
ด้าน นายกฤษณภูมิ กล่าวว่า บริษัท คิว โอฯ เป็นบริษัทของตน ซึ่งรายได้ของบริษัทนั้นถูกบันทึกไว้ทั้งหมด ตั้งแต่เปิดบริษัทจนถึงช่วงเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลรายได้ที่นายชิตกณได้ไปนั้น เชื่อว่ามาจากคนในแน่นอน เพราะมีแค่คนภายในเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ และหากพบตัวจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเช่นกัน
Advertisement
ส่วน น.ส.กัญญาวีร์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวทำให้บริษัท, นายกฤษณภูมิร่วมถึงตน ได้รับความเสียหายทางการค้าและในฐานะดาราศิลปินถูกกล่าวหาว่าไม่รักษาความลับของลูกค้า และยังสูญเสียผลประโยชน์ทางการค้าเช่นเดียวกัน ซึ่งตั้งแต่ที่ข้อมูลรั่วไหลออกไปนั้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายออกมาเป็นตัวเลขได้ แต่ความน่าเชื่อถือน่าจะเสียหายมากกว่า
ทั้งนี้คดีดังกล่าวบริษัทฯได้มีการสืบทราบมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2566 จึงมอบหมายให้ นายสาคร ศิริชัย ทนายความ ทำการสืบในทางลับและรวบรวมพยานหลักฐานจนได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2566 พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ได้ทำการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป
