ตร.เตรียมตรวจร่างกาย คนขับเก๋งขาวหัวร้อนชนแท็กซี่ หลังพบน้ำสีเหลืองทิ้งในรถ จ่อตรวจหาแอลกอฮอล์ด้วย ยึดรถของกลางจอดทิ้งในซอยมาตรวจสอบแล้ว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ม.ค.67 ที่สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีรถเก๋งสีขาวหัวร้อน ขับพุ่งชนรถแท็กซี่กลางถนนรัชดา ก่อนมีคลิปว่อนโลกออนไลน์

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสามารถติดต่อผู้ครอบครองรถเก๋งคันก่อเหตุได้แล้ว เบื้องต้นให้การผ่านทางโทรศัพท์ยอมรับว่า เป็นผู้ขับรถก่อเหตุดังกล่าวจริง และจะเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนภายในวันนี้

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เช่น การดื่มสุรา , เหตุผลที่ขับรถหนี , หรือคนขับมีอาการป่วยตามที่ปรากฏรายงานข่าว เรื่องนี้ขอสงวนยังไม่เปิดเผย เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แต่พนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อข้อมูลใดๆ จากปากผู้ก่อเหตุ ต้องรอให้มาที่สถานีตำรวจ เพื่อดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งนำไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ในร่างกาย

ส่วนรถเก๋งคันก่อเหตุ พบว่าผู้ก่อเหตุนำไปจอดทิ้งไว้ท้ายซอยอินทามระ 26 จึงประสานตำรวจ สน.สุทธิสาร และนำรถคันดังกล่าวมาตรวจยึดเป็นของกลาง แล้วนำมาไว้ที่สถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ ต่อไป ส่วนสาเหตุที่นำรถไปจอดทิ้งไว้ภายในซอยอินทามระ 26 ต้องดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนของเหลวที่พบภายในรถเก๋งคันก่อเหตุนั้น เบื้องต้นประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบแล้ว

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ส่วนสมมติฐานที่ว่า คนขับรถเก๋งเกิดอาการสติแตกในระหว่างเกิดเหตุนั้น มองว่าเป็นไปได้ แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 12 ชั่วโมง อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่ถ้าหากผู้กระทำความผิดเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน ก็จะเป็นผลดีกับตัวเขาเอง เพื่อแสดงข้อเท็จจริง ส่วนถ้าหากคนขับรถเก่งมีอาการป่วยจริง ก็ควรจะต้องนำใบรับรองแพทย์มาแสดง ซึ่งตนไม่อยากจะชี้นำในประเด็นนี้

สำหรับแนวทางการดำเนินคดี วางแผนเอาไว้ว่าเป็นการดำเนินคดีแบบต่างกันต่างวาระ ในกรณีเหตุการณ์ขับรถชนจาก จุดที่ 1 และจุดที่ 2 คือ หน้าโลตัสพระราม 9 จนถึงหน้าอาคาร RS Tower อาจจะเป็นข้อหาขับรถโดยประมาทและชนแล้วหนี ส่วนจุดที่ 3 บริเวณด้านหน้า the Street รัชดา ตามที่ปรากฏในคลิปแน่ชัดแล้วว่าเป็นข้อหาทำให้เสียทรัพย์และขับรถชนโดยเจตนา ส่วนรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองที่ถูกชนในคลิป ไม่ถือว่าประมาทร่วมหรือมีส่วนที่ต้องแจ้งข้อหาใด ๆ เพราะพิจารณาจากพฤติการณ์ เป็นการป้องกันขัดขวางไม่ให้ผู้กระทำความผิดหลบหนี จึงไม่มีความผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน