แม่เก๋งขาวหัวร้อนเปิดใจ ยันลูกชายมีอาการป่วย คลั่งหนีจากบ้าน วอนตร.อย่าวิสามัญ ตำรวจเตรียมเชิญตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากคดีคนขับรถเก๋งสีขาวหัวร้อน ขับพุ่งชนรถแท็กซี่กลางถนนรัชดา ก่อนมีคลิปว่อนโลกออนไลน์ โดยตำรวจตรวจสอบพบรถเก๋งสีขาวคันเกิดเหตุแล้ว พร้อมกำลังประสานคนขับมาสอบสวน ในรถพบขวดน้ำสีเหลืองปริศนาและกำลังตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 15 ม.ค.67 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า แม่ของคนขับรถเก๋งสีขาว ประสานเข้ามาขอความช่วยเหลือว่า ลูกชายเป็นคนขับรถเก๋งสีขาว มีอาการป่วยทางจิตและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้ว
โดยแต่ก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ลูกชายได้ไปบวชเป็นพระ 2 เดือน แต่ศึกษาพระธรรมมา 10 ปี และพักเรียนเอาไว้ก่อน จนกระทั่งเพื่อนไปหาและขอให้สึกออกมาเรียนต่อให้จบ ลูกชายก็สึกออกมาเรียน
หลังจากนั้นลูกใฝ่ฝันอยากเป็นนักกีฬา แม่เลยเปิดฟิตเนสให้ จนลูกชายฝึกฝนจนได้เป็นนักกีฬาระหว่างประเทศ ระหว่างนั้นมักจะมีอาการคลั่ง คิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าตลอดเวลา แม่จึงพาไปรักษา ให้กินยาตลอด เวลาไปไหนมาไหนจะพรมน้ำมนต์ตลอด
ช่วงก่อนวันที่ 10 ม.ค. ประมาณ 2-3 วัน ลูกชายที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีอาการคลั่งและหนีออกจากโรงพยาบาล แม่ก็ไปตามจนเจอและพาไปที่โรงพยาบาล เพื่อให้หมอฉีดยาให้หลับ และแม่จะพาไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเดิม แต่โรงพยาบาลไม่ฉีดยาให้ ทำให้ลูกหนีออกจากบ้านจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้
นายเอกภพ กล่าวว่า แม่เลยประสานตนมาเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เพราะเกรงกลัวว่าลูกจะไปทำร้ายตำรวจ และถูกตำรวจวิสามัญ จึงวอนขอตำรวจอย่าทำร้ายลูก เพราะลูกมีอาการป่วยทางจิตจริงๆ
