ร้อง สธ. เอาผิด คลินิกศัลยกรรมเถื่อน นายแบบ แฉ ใช้ค้อน-สิ่ว ตัดกราม โหนกแก้ม แพทย์มือมีดถูกพักใช้ใบอนุญาตถึงกลางปีนี้ ศาลสั่งล้มละลาย แต่แอบเปิดคลินิกอีก
วันที่ 1 มี.ค.2567 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมผู้เสียหายจากการเข้ารับบริการศัลยกรรมในคลินิกแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง รวม 3 ราย เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลเยียวยาผลกระทบจากคลินิกที่ทำหัตถการ
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า จากการให้การช่วยเหลือพริตตี้สาวในการติดตามทวงถามความเป็นธรรมหลังได้รับความเสียหายจากการทำศัลยกรรม จนต้องนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่กลับไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา

ร้อง สธ. เอาผิด คลินิกศัลยกรรมเถื่อน นายแบบ แฉ ใช้ค้อน-สิ่ว ตัดกราม โหนกแก้ม แพทย์มือมีดถูกพักใช้ใบอนุญาตถึงกลางปีนี้
นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนจะมาติดตามความคืบหน้า และขอให้ประสานไปยังแพทยสภา เพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตของแพทย์ที่ทำหัตถการแล้วทำให้เกิดความเสียหาย เพราะพบว่า หลังจากที่ทำศัลยกรรมแล้วเกิดความเสียหายถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต แต่กลับยังมีการรับทำศัลยกรรมและทำให้เกิดความเสียหายในรายอื่น ๆ อีก
นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ตั้งแต่ปี 2565 แต่กลับยังเปิดให้บริการคลินิก ในปี 2567 กรณีเช่นนี้ ถือว่าทำได้หรือไม่ ยังสามารถประกอบวิชาชีพได้หรือไม่ จึงอยากให้มีการตรวจสอบหากพบว่าไม่สามารถทำได้ก็จะถือเป็นความผิดและขอให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด
ด้าน ผู้เสียหาย อาชีพนายแบบ กล่าวว่า ตนเข้ารับการศัลยกรรม ตัดกราม โหนกแก้ม ครั้งแรกเมื่อปี 2562 สองรอบ จำได้ว่าแพทย์ท่านนั้นทำด้วยค้อนกับสิ่ว จากนั้นมีรอยยุบลักษณะคล้ายโดนต่อย จากนั้นตนมีการติดต่อกลับไป 2-3 เดือน ที่ผ่านมาไม่เคยมีการพูดคุยหรือได้รับคำขอโทษจากแพทย์ผู้ดำเนินการ
ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ทางแพทย์ยืนยันว่าทำดีแล้ว แต่ก็ต้องถามกลับว่า หากทำออกมาแล้วใบหน้ายุบเช่นนี้เรียกว่าทำดีแล้วหรือไม่ ถ้าทำออกมาแล้วเป็นอย่างนี้เรียกว่าทำได้ดี ถึงเอาเงินมาจ้างให้ตนไปทำด้วยก็คงไม่ทำ อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นสั่งให้ชดใช้ 1,115,490 บาท ยังไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว
นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า รายนี้เข้าคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีของกรมฯ เมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบปรับ อย่างไรก็ตาม แพทย์ที่ทำหัตถการถูกแพทยสภาพักใช้ใบอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.67 จึงไม่สามารถเปิดบริการได้ เป็นระยะเวลา 2 ปี
นพ.สุระ กล่าวต่อว่า ส่วนแพทย์อีก 1 คน เป็นเจ้าของหรือผู้ประกอบการ ซึ่งถูกแพทยสภาสั่งพักใช้ใบอนุญาต 3 เดือน ซึ่งครบแล้ว ขณะเดียวกันก็ทราบว่าศาลได้มีการสั่งให้ล้มละลาย ทำให้แพทย์รายนี้ไม่สามารถเปิดให้บริการคลินิกที่ไหนได้ในฐานะเจ้าของ
นพ.สุระ กล่าวอีกว่า แต่ก็ทราบว่าแพทย์ท่านนี้ไปขออนุญาตเปิดคลินิก 2 แห่ง ที่กรุงเทพฯ 1 แห่ง และเพชรบุรี 1 แห่ง จากนี้จะมีการนำเรื่องเข้าคณะกรรมการสถานพยาบาล พิจารณาสั่งปิดคลินิกดังกล่าว ภายในเดือน มี.ค.
นพ.สุระ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ การละเมิดคำสั่งเปิดคลินิกจะมีโทษตามกฎหมาย คือจำคุก 5 ปี ถือเป็นโทษหนัก โทษฐานเปิดคลินิกเถื่อน ส่วนผู้ที่ร่วมทำหัตถการ โดยเฉพาะแพทย์หากไปทำในคลินิกเถื่อน หรือคลินิกที่เราไม่อนุญาตให้เปิดก็จะถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่าผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า แพทย์ผู้ดำเนินการมีการเวียนไปให้บริการในคลินิกหลายแห่ง ลักษณะเช่นนี้สามารถทำได้หรือไม่ นพ.สุระ กล่าวว่า หากจะไปดำเนินการที่คลินิกแห่งไหนก็จะต้องขออนุญาต ว่าจะดำเนินการที่คลินิกแห่งไหนบ้าง เพื่อให้คนไข้สามารถตรวจสอบได้ว่าจะมีแพทย์ท่านใดมาให้บริการที่คลินิกนั้นบ้าง หากไม่ยื่นก็จะมีความผิดมีบทลงโทษเช่นเดียวกัน
นพ.สุระ กล่าวต่อว่า สำหรับคลินิกที่ทำให้พริตตี้สาว กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงนั้นเบื้องต้นทราบว่าไม่ได้มีการยื่นมา เพราะว่าเขาไม่สามารถทำได้ 2 ปีเนื่องจากแพทย์สภาสั่งพักใช้ใบอนุญาตตั้งแต่ 1 ก.ค.2565 จนถึง 30 มิ.ย.2567
ทั้งนี้ กรมสบส. เปรียบเทียบคดีได้เพียงค่าปรับธรรมดา หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี แต่ถ้าเลยกว่านั้นโทษจำคุก มากกว่า 1 ปีขึ้นไปก็จะเป็นโทษในคดีอาญาเป็นโทษทางบ้านเมืองไป การทำให้พิการหรือเสียชีวิตก็เป็นคดีอาญาไป
และคดีทางแพ่งผู้เสียหายก็ต้องไปฟ้องทางแพ่งว่ามีความเสียหายเท่าไหร่ มีค่าเยียวยาเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้มีกฎหมายเกี่ยวข้องอยู่ 3 ฉบับ ในขณะที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาลในการปรับน้อยมาก แค่ผิดมาตรฐานส่วนที่เกินจากนี้ ทางตำรวจจะเป็นผู้สั่งดำเนินคดี และขึ้นสู่ชั้นศาล ซึ่งทราบว่าคดีนี้ศาลก็สั่งไปแล้วในคดีแพ่ง
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ รองอธิบดี กล่าวว่า สำหรับคลินิกหากจะรับแพทย์เข้ามาเป็นคู่ทำหัตถการจะต้องมีการตรวจสอบว่าแพทย์ท่านนั้นได้รับอนุญาตจากแพทยสภาหรือไม่ เป็นแพทย์เถื่อนหรือไม่
หากรับโดยพละการโดยไม่มีการตรวจสอบก็จะมีความผิด ในการเอาคนที่ไม่ใช่แพทย์มาทำ มีโทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท ไม่ถึงขั้นต้องปิดกิจการ แต่หากเป็นบุคคลล้มละลาย ก็จะต้องถูกปิดกิจการซึ่งตอนนี้มีอยู่ 2 แห่ง ก็คือที่กรุงเทพฯ 1 แห่งเพชรบุรี 1 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลา 11.30 น. กันจอมพลัง ได้นำผู้เสียหายไปร้องต่อแพทยสภาด้วย