ผบช.สอท. เรียกประชุมระดับรองผบช.-ผกก.ขับเคลื่อนนโยบาย หลังนายกฯขีดเส้น 30 วันปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่นพร้อมพิจารณาตัวเอง หากผลงานไม่เข้าเป้า
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 1 เม.ย.2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ได้มอบนโยบายให้กับตำรวจในสังกัด พร้อมระบุถึงความขัดแย้งระหว่าง 2 นายตำรวจที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่นี่ : เศรษฐา ฮึ่มบช.ไซเบอร์ ขีดเส้น 30วันต้องจับตัวการใหญ่ให้ได้ ชี้เป็นภัยความมั่นคง
ส่วนที่ตนเองถูกกล่าวหาเป็นเด็กของใครนั้น นายกฯ รู้สึกสงสาร จึงอยากให้พิสูจน์ตนเองด้วยการทำงาน โดยนำประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมกำชับให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นย้ำให้มีผลงานการจับกุมและรายงานผลปฏิบัติที่ชัดเจนภายใน 30 วัน เน้นเป็นอาชญากรรายใหญ่นั้น
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อนายกฯ กำชับมาแล้วก็จะต้องปฏิบัติให้เต็มที่ โดยมีผลงานเป็นรูปธรรมเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาตลอด
ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าต้องดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 30 วันนั้นเนื่องจากนายกฯ ได้เห็นปัญหาความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็นต้นเหตุ จึงกำชับการปฏิบัติให้มีความเข้มมากขึ้น หากไม่สามารถปฏิบัติได้ ก็จะต้องพิจารณาตัวเองว่าเราทำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกฯ เดินทางกลับ พล.ต.ท.วรวัฒน์ ได้เรียกประชุม ข้าราชการตำรวจในสังกัดตั้งแต่ระดับรองผบช.-ผกก. เพื่อมอบหมายนโยบายดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกฯเป็นการเร่งด่วน
