ปะทุอีกรอบ ไหม้ถังเก็บสารกลางนิคมมาบตาพุด พบดับสลด 1 ศพ อพยพพนักงาน 300 ชีวิต ยังไม่มีทีท่าว่าไฟจะดับลง ทำได้เพียงระดมฉีดน้ำไปยังกองเพลิง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณ ถังเก็บสาร Pyrolysis gasoline (แก๊สโซลีน) ถนนไอ-แปด ทางเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมดับเพลิงและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่

โดยรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ระดมเข้าดับไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ หลังใช้เวลาดับประมาณ 3 ชั่วโมง ไฟได้ดับลง โดยมีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอด

แต่หลังผ่านไปเพียง 30 นาที ปรากฏว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกขึ้นมาอีกรอบ โดยไฟลุกติดอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนกลับมาไหม้เหมือนเดิม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่คอยเฝ้าระวังหลังไฟดับ ต่างรีบฉีดน้ำสกัดเพลิงอีกรอบ แต่เนื่องจากไฟลุกติดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จึงยังไม่มีทีท่าว่าไฟจะดับลง ทำได้เพียงระดมฉีดน้ำไปยังกองเพลิงที่กำลังลุกโหมอย่างรุนแรง

ด้านบริษัทมาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ส่งหนังสือแถลงการณ์ชี้แจงกรณีเกิดกลุ่มควัน บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ว่า ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ โดยบริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยได้ตัดแยกระบบ และหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงงานตามขั้นตอนความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุม เหตุการณ์และประเมินความเสียหาย รวมทั้งการหาสาเหตุ

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ซึ่งนำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมารับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ ได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by product) จากการผลิตสารตั้งต้นในการผลิตเม็ดพลาสติก โดยได้แยกเบนซีน โทลูอีน มิกซ์ไซลีน ออกหมดแล้ว ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ (Solvent) บริษัทฯ ขออภัยในเหตุที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์

ส่วนพนักงานของบริษัทจำนวน กว่า 300 คน ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานรอบๆ จุดเกิดเพลิงไหม้ ได้อพยพพาพนักงานไปรวมตัวกันที่อาคารเอนกประสงค์ ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ ซึ่งอยู่ห่างจากประมาณ 10 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข มาช่วยรักษาพยาบาลและตรวจร่างกาย ส่วนใหญ่จะมีอาการตื่นตระหนก ไม่มีอาการรุนแรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน