เมื่อเวลา 14.54 น. วันที่ 3 พ.ย. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จทรงบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดอนงคารามวรวิหาร สวดพระอภิธรรม รวม 8 รูป

201611031452212-20030315183434

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่มาแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวงและรอบพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์ฯ นำอาหารและน้ำดื่มพระราชทาน มาแจกจ่ายให้ประชาชนที่เต็นท์บริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ หลายวันติดต่อกันแล้ว โดยวันนี้อาหารพระราชทานมี 4 เวลา ประกอบด้วย อาหารเช้า เวลา 07.00 น. เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง 1,000 ชุด นม 2,000 กล่อง มื้อกลางวันเวลา 11.00 น. ข้างหมูและไก่ทอดรวม 4,000 ชุด เฉาก๊วย 2,000 ถ้วย พร้อมน้ำดื่ม ช่วงบ่ายเวลา 16.00 น. ขนมไทยและเฉาก๊วย 1,000 ชุด น้ำสมุนไพร 500 ลิตร และมื้อเย็นเวลา 18.00 น. ข้าวขาหมูพะโล้ และผัดผัก 2,000 ชุดพร้อมน้ำดื่ม

201611031453241-20030315183434

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายมีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่อง หลายคนอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจและถือพระบรมฉายาลักษณ์ไว้แนบอก โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดแถวประชาชนให้เข้ามาทางประตูมณีนพรัตน์ ในพระบรมมหาราชวัง ฝั่งทิศเหนือ อันเป็นสถานที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก่อนเดินผ่านทางระเบียงคดถึงประตูวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนอมรวิถี หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จัดแถวให้ยืนรอบริเวณหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ก่อนเข้าสักการะพระบรมศพ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทางประตูกำแพงแก้วฝั่งตะวันออก และเดินออกทางประตูเทวาภิรมย์

s__8675443

กระทั่งเวลา 16.00 น. สำนักพระราชวังเปลี่ยนทางเข้าสักการะพระบรมศพ จากประตูมณีนพรัตน์มาเป็นประตูวิเศษไชยศรี เจ้าหน้าที่ได้จัดแถวให้ประชาชนเดินเรียง 4 แถวอย่างเป็นระเบียบผ่านประตูพิมานไชยศรี และยืนตั้งแถวรอเข้าสักการะพระบรมศพหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ก่อนเข้าสักการะพระบรมศพ ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเดินออกทางประตูเทวาภิรมย์ โดยประชาชนต่างมีสีหน้าเศร้าโศก บางคนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ

s__8675444

นางกุลนันท์ รสน้อย อายุ 49 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ กล่าวด้วยเสียงสะอื้นไห้ว่า ตนเดินทางด้วยรถโดยสารมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานและพักค้างคืน กระทั่งรุ่งเช้าจึงเดินทางมารอคิวเข้าสักการะพระบรมศพ ตนได้อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ตนรักพระองค์มากที่สุดในชีวิต ช่วงที่พระองค์มีพระอาการประชวร ตนจะสวดมนต์ขอพรให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

s__8675447

เมื่อทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ก็รู้สึกเสียใจมาก ถ้าแลกชีวิตของตัวเองเพื่อต่อลมหายใจให้ท่านได้ก็จะทำ ตนประทับใจทุกคำสอนที่พระองค์พระราชทานให้แก่ประชาชน และจะน้อมนำมาปฏิบัติ โดยจะประพฤติตนเป็นคนดี ซื่อสัตย์ จะช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่ทำได้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

s__8675446

ด้านนายอุดม สงวนศิลป์ อายุ 61 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ ที่เดินทางมาพร้อมภรรยาและลูกชาย โดยนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชห้อยคอไว้ตลอดเวลาที่เดินทางมา กล่าวว่า หลังทราบว่าพระองค์สวรรคตก็เสียใจและรู้สึกใจหาย จึงเดินทางมาลงนามถวายความอาลัยที่ศาลาสหทัยสมาคม เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา พอทราบว่าสำนักพระราชวังเปิดให้เข้าสักการะพระบรมศพได้ จึงพาครอบครัวเดินทางมาวันนี้ และอธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ตนรักและเคารพพระองค์มาก เวลาเห็นเงินเหรียญตก ตนจะรีบเก็บทันที เพื่อไม่ให้ใครมาเหยียบเหรียญที่มีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ที่บ้านก็จะแขวนภาพพระบรมฉายาลักษณ์ไว้บนผนังเหนือหัว และจะกราบไหว้ทุกคืนก่อนนอน จะสอนลูกเสมอว่าให้เป็นคนดี และอยู่อย่างพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระองค์

นายอุดม สงวนศิลป์ พร้อมภรรยาและลูก

นายอุดม สงวนศิลป์ พร้อมภรรยาและลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงเย็น ที่หน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง มีประชาชนกว่า 3,000 คน ทยอยเดินทางมารอที่เต็นท์หน้าพระบรมหาราชวัง เพื่อเข้าไปถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยปริมาณประชาชนที่มารอได้แน่นขนัดตั้งแต่หน้าประตู วิเศษไชยศรี ยาวไปจนถึงถนนพระจันทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กทม. ได้อำนวยความสะดวกในการแจกน้ำและยาดม ให้แก่ประชาชนดังกล่าว

นางกุลนันท์ รสน้อย

นางกุลนันท์ รสน้อย

ส่วนที่บริเวณท้องสนามหลวง นายประสาร พิพัฒน์วรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักการโยธากรุงเทพมหานคร ร่วมกับน.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกทม. ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงพื้นที่ฝั่งทิศเหนือของท้องสนามหลวง เพื่อเตรียมรองรับและอำนวยความสะดวกของประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ

s__33234956

นายประสาร กล่าวต่อว่า ในการปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด 23,000 ตร.ม. เพื่อตั้งเต็นท์ ทั้งหมด 72 หลัง ขนาด 10×20 เมตร โดยสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 2 หมื่นคน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 พ.ย. นี้ โดยขณะนี้ดำเนินการปรับปรุงคืบหน้าไปกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของปัญหาระหว่างการดำเนินงาน พบแค่เพียงฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ ทำให้การทำงานเกิดความล่าช้าไปบ้าง ดังนั้น จึงปรับแผนจากที่เคยทำงานเฉพาะช่วงกลางคืน เปลี่ยนเวลาการทำงานเป็น 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หลังจากเสร็จพระราชพิธีดังกล่าว ทางกรุงเทพฯจะคืนสภาพสนามหลวงในเป็นเหมือนเดิม

s__33234954

201611031828027-20030315183434

201611031829447-20030315183434

201611031829391-20030315183434

201611031829449-20030315183434

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน