“ทีมโฆษกรัฐบาล” แจงจัดระบบสื่อเข้าสถานที่สัมภาษณ์ ต้องแจ้งสำนักโฆษกฯให้รับทราบ เพื่อจัดระบบเข้าอาคารหวงห้าม ย้ำทำบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบ สื่อต้องมีสังกัด เพื่อปรับระบบไม่ได้สร้างความขัดแย้ง ยันคุมเข้มปลอดภัย ไม่ได้มีปัญหาภัยคุกคาม

s__36429846

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมโฆษกฯ ผอ.สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล อาทิ นายธีรวุฒิ กลั่นเลี้ยง ผอ.สำนักสถานที่และรักษาความปลอดภัย พ.ต.อ.เกียรติ กาบบัว ผกก.สันติบาล 3 ทำเนียบรัฐบาล ร่วมแถลงความชัดเจนในการปฏิบัติตัวของผู้สื่อข่าว การออกบัตรสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และมาตรการดูแลความปลอดภัยของทำเนียบ สืบเนื่องจากมีความไม่ชัดเจนในการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ทำข่าวและมาตรการดูแลความปลอดภัย

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบให้เข้มข้น ทั้งบุคคล เอกสาร สถานที่ ยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกภายในทำเนียบ ทุกภาคส่วนจึงต้องดำเนินการและส่งผลต่อทุกคนที่อยู่ในทำเนียบ ทั้งผู้สื่อข่าวและข้าราชการทุกคน อาจทำให้ความสะดวกลดลง จึงอยากให้ทุกคนที่ทำงานร่วมกันทำความเข้าใจให้ตรงกัน เรื่องการผ่านเข้าออกทำเนียบ การติดบัตรแสดงตัว ช่วงเวลาและพื้นที่ที่อนุญาตให้สื่อมวลชนสามารถเข้าไปทำข่าวได้

นายธีรวุฒิ กล่าวว่า การอนุญาตให้บุคคลเข้าในพื้นที่อาคารต่างๆของทำเนียบนั้น มีระบุในแผนแม่บทปี 2556 ซึ่งกำหนดพื้นที่หวงห้ามเฉพาะ และเขตหวงห้ามเด็ดขาด โดยชั้นล่างของตึกบัญชาการ 1 จะเป็นเขตหวงห้ามเฉพาะ เข้าได้เฉพาะผู้ที่มีภารกิจและแลกบัตรเข้าประชุม

ส่วนชั้น 2-5 เป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด สำหรับผู้สื่อข่าวได้จัดพื้นที่ไว้ให้ที่ห้องปฏิบัติงานผู้สื่อข่าว โดยไม่อนุญาตให้เข้าไปพักรอภายในอาคารตลอดทั้งวัน โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน เว้นแต่มีการประสานงานกับแหล่งข่าวเพื่อขอทำข่าว ทางสำนักโฆษกฯจะเป็นคนประสานงานเพื่อเชิญเข้ามาภายในอาคาร เมื่อมีภารกิจตามความเหมาะสม แต่สื่อสามารถดักรอสัมภาษณ์บริเวณด้านหน้าตึกอาคารได้

อย่างไรก็ตาม แม้แหล่งข่าวต้องการจะให้ข่าวโดยตรง ก็ต้องมีการประสานให้สำนักโฆษกฯตรวจสอบด้วย สื่อจะเข้ามาโดยตรงไม่ได้ และคิดว่าควรจะมีการประสานเพื่อไม่ให้ขัดกับหลักเกณฑ์ระเบียบปฏิบัติ เพื่อให้การทำงานระหว่างสื่อและเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความราบรื่น

ด้าน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานได้รับนโยบายมาว่าต้องมีระบบมากขึ้น แต่ไม่ใช่จะไม่อำนวยความสะดวกให้ผู้สื่อข่าว เพราะต้องพึ่งพากัน แต่การทำข่าวโดยไม่ให้โฆษกฯรับทราบนั้น ทำให้เราลำบากใจ เมื่อมีผู้ใหญ่สอบถามมาแล้วไม่ทราบข้อมูลที่มีข่าว ซึ่งการสัมภาษณ์ทางสำนักโฆษกฯจะไปบอกเองกับผู้ให้สัมภาษณ์ มีขั้นตอนและระบบ และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทำให้ลำบาก และยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้สร้างขึ้น เพื่อทำให้เกิดอุปสรรคหรือเกิดจากความรู้สึกกีดกันใคร แต่เมื่ออยู่สบายอาจมองข้ามกติกาและเคยชิน จึงอยากให้เห็นใจซึ่งกันและกัน

สำหรับประจำตัวสื่อมวลชนชั่วคราวนั้นหากมีการนำไปปลอมแปลง ก็จะมีผลทางกฎหมายจึงไม่น่าจะกังวล สำหรับบุคคลที่อ้างว่าเป็นฟรีแลนซ์หรือระบุว่าเป็นนักข่าวอิสระ ช่างภาพอิสระ ที่มาเป็นครั้งคราวหวังเข้ามาทำข่าวขายสื่อต่างประเทศ โดยไม่มีบัตรใดๆเราไม่อนุญาต แต่หากเป็นฟรีแลนซ์ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไม่มีนักข่าวในประเทศไทย โดยที่มีบัตรรับรองจากสังกัดนั้นๆ ว่าเป็นนักข่าวอิสระสามารถแลกบัตรเข้ามาทำข่าวได้

“เราต้องมองว่าทำเนียบเป็นสถานที่บริหารสูงสุด แม้สื่อจะคุ้นเคยกับสถานที่แต่ในสายตาของบุคคลภายนอก ต้องมีระดับการรักษาความปลอดภัยสูงสุดในประเทศ แต่การปฏิบัติในขณะนี้ถือว่าอะลุ่มอล่วยมาก เรื่องใดที่เป็นประเด็นที่ทำให้ยุ่งยากก็จะรับไปปรับแก้ร่วมกัน ระหว่างคนที่ต้องรับผิดชอบกติกาและคนทำข่าว ไม่ใช่จะสร้างข้อขัดข้องระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม จะพูดคุยกับผู้ใหญ่ในประเด็นการสัมภาษณ์เฉพาะกิจ ต้องมีหลักเกณฑ์อย่างไร รวมทั้งระบบการใช้สถานที่ และการดูแลความปลอดภัยที่ต้องเข้มข้นนั้น จะใช้กับทุกคนที่ผ่านเข้าออก ไม่เฉพาะแค่สื่อและยืนยันว่าไม่ได้มาจากเรื่องของภัยคุกคามเข้ามาเกี่ยวข้อง และจะมีการประเมินผลการดำเนินการเพื่อปรับแก้ต่อไป” พล.ท.วีรชน กล่าว

นายสุรพล กล่าวว่า สำหรับเหตุผลของการยกเลิกบัตรประจำตัวสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นอนุโลมให้ใช้บัตรเก่าจนกว่าจะได้บัตรใหม่ เนื่องจากในปีนี้บัตรมีการเปลี่ยนผู้ลงนามบัตรจากผอ.รปภ.คนเดิม และให้ใช้บัตรประจำตัวชั่วคราวของสื่อที่ปฏิบัติงานประจำในทำเนียบใช้เป็นสีม่วงในระหว่างทำบัตรใหม่ของปี 2560 ซึ่งเป็นบัตรพลาสติก ขณะที่สื่อที่เตรียมจะทำบัตรทำเนียบจะใช้บัตรสีชมพู โดยต้องใช้บัตรพนักงานแลกที่ประตูหนึ่งของทำเนียบ หากทำบัตรหายควรแจ้งความเพื่อนำเอกสารมาแจ้งทำบัตรใหม่ได้

ทั้งนี้ ข้อกังวลว่าบัตรชั่วคราวไม่มีแจ้งสังกัด และรูปถ่ายและเกรงว่าจะมีการปลอมแปลงเอกสาร ยืนยันว่าไม่สามารถปลอมได้ เพราะมีตัวเลขและลายเซ็นปั๊มสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เอกสารในการทำบัตรสื่อมวลชนประจำทำเนียบ ที่ต้องมีใบรับรองจากต้นสังกัดที่ชัดเจน และหากเป็นผู้สื่อข่าวอิสระต้องมีสังกัดรับรอง เพื่อมาแลกบัตรหรือขอทำบัตรผ่านเข้าออก

ด้านพ.ต.อ.เกียรติ กล่าวว่า สำหรับคนที่ไม่มีบัตรต้องใช้บัตรประจำตัวที่ต้นสังกัดออกให้มาแลกบัตรชั่วคราวผ่านเข้าออก หรือให้ผู้ปฏิบัติงานในสังกัดเดียวกันเซ็นรับรองเป็นรายกรณีไป ส่วนบัตรประชาชนอนุโลมเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยที่บุคลากรในสังกัดเซ็นรับรองว่าเป็นใคร ทั้งนี้ ได้กำชับผู้ปฏิบัติงานในการดูแลผ่านเข้าออก โดยผู้แขวนบัตรชั่วคราวสามารถผ่านเข้าออกได้ทุกประตู เว้นประตูสะพานชมัยมรุเชษฐ ที่เป็นช่องทางเข้าออกสำหรับผู้นำเท่านั้น และข้อผิดพลาดได้แจ้งเพื่อให้ไปปรับแก้ไขแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน