จากเหตุการณ์สลดใจ นายศุภกิจ ปั้นแปลก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ที่ 3 ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ใช้เชือกไนล่อนผูกกับต้นฉำฉากลางทุ่งนา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ย. โดยนางอุบล ภรรยาผู้ตายระบุว่า สามีเคยบ่นว่าราคาข้าวตอนนี้เหลือเพียงเกวียนละ 5-6 พันบาท เราจะอยู่กันได้หรือเปล่า เพราะว่าเป็นหนี้สหกรณ์เป็นล้านบาท ขณะที่นายราชัน เขียวงาม ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 3 ต.วังสำโรง ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตนั้นน่าจะมาจากความเครียดเรื่องราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งที่ผ่านมานั้นนายศุภกิจได้กู้สหกรณ์มาเป็นจำนวนมาก และคิดว่านายศุภกิจคงไม่สามารถจะใช้หนี้ให้หมดได้ จึงเป็นเหตุให้ฆ่าตัวตาย (อ่านข่าว-ชาวนาพิจิตรผูกคอตายกลางทุ่งนา เมียเผยเครียดราคาข้าวตกต่ำ-ไม่มีเงินใช้หนี้สหกรณ์
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าชาวนาอำเภอบางมูลนาก จ.พิจิตร ผูกคอเสียชีวิต เนื่องจากราคาข้าวตก เป็นหนี้เงินกู้ธ.ก.ส.ว่า รับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากทางผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร ว่า บุคคลที่เสียชีวิตมีอาชีพช่างแอร์และมีหนี้สินส่วนตัว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับชาวนาเลย และขณะนี้ทางผู้ว่าฯทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนในพื้นที่ที่รายงานข่าวดังกล่าวให้เข้าใจ โดยทราบว่ามีสื่อหัวสีบางสื่อที่นำเสนอ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีมาตรการในการแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จึงอยากให้เกษตรกรชาวนารวมถึงเกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่นๆ ค่อยๆทบทวนเพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างมีสติตั้งมั่น
ต่อมาเวลา 16.40 น.วันเดียวกัน ที่วัดวังสำโรง ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วยปลัดจังหวัดพิจิตร เดินทางมารดน้ำศพนายศุภกิจ ปั้นแปลก อายุ 43 ปี ชาวนาบางมูลนากที่ผูกคอตายจากสาเหตุเครียดเรื่องราคาข้าว
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามญาติๆทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากความเครียดเรื่องหนี้สินหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการทำนา และเรื่องทำอาชีพเป็นช่างแอร์ ซึ่งผู้ตายคงไม่รู้ว่ารัฐบาลได้ออกนโยบายช่วยเหลือแล้วเลยคิดสั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งช่วยเหลือชาวนาอย่างเต็มที่
