เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 พ.ต.ต.ณรงค์ อุตบัววงษ์ สารวัตรเวร สภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอตายที่ต้นฉำฉากลางทุ่งนา หมู่ที่ 3 ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ จึงรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พบศพนายศุภกิจ ปั้นแปลก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ที่ 3 ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ใช้เชือกไนล่อนผูกกับต้นฉำฉา จึงได้นำศพส่ง รพ.บางมูลนาก เพื่อชันสูตรศพ (อ่านข่าว-“ไก่อู”โต้ข่าวชาวนาพิจิตรผูกคอตาย บอกเป็นช่างแอร์ ไม่เกี่ยวราคาข้าว

3998

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายศุภกิจ ผู้ตายได้ออกไปดูนาข้าวตอน 6 โมงเช้า จนกระทั่งนางอุบล ภรรยาของผู้ตาย เห็นนายศุภกิจไปนานผิดสังเกต จึงได้ออกไปตามที่ท้องนา จนพบว่านายศุภกิจ ผูกคอตายดังกล่าว

ทางด้านนายนิทัศน์ ปั้นแปลก อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่นายศุภกิจผูกคอตายในครั้งนี้ มีอยู่เรื่องเดียวคือปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำ และเครียดในเรื่องของหนี้สินเยอะ มีภาระต้องเลี้ยงดูส่งเสียลูกเรียนถึง 4 คน เท่าที่ทราบนายศุภกิจเป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรอำเภอบางมูลนากกว่า 1 ล้านบาท และข้าวนาปีหอมมะลิ 105 ก็ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุ เพราะคงไม่มีเรื่องอื่น

3996

ทางด้านนายวิทยา อินสำเภา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/5 หมู่ที่ 3 ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตาย เผยว่า ก่อนนายศุภกิจจะเสียชีวิต ได้มาหาตนที่บ้าน และคุยกันเรื่องเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งผู้ตายเปรยๆว่า ปีนี้ราคาข้าวไม่ดี หนี้สินก็เยอะ ทำนากว่า 80 ไร่ คงไม่พอใช้หนี้ พอมาเจอปัญหาแบบนี้คงหาทางออกไม่ได้จึงผูกคอตายดังกล่าว

นางอุบล ภรรยาผู้ตายเปิดเผยว่า สามีเคยบ่นว่าราคาตอนนี้เหลือเพียง 5-6 พันบาท เราจะอยู่กันได้หรือเปล่า เพราะว่าเป็นหนี้สหกรณ์เป็นล้านบาท ซึ่งตนเองได้ปลอบใจสามีว่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก จนตอนเช้าตนเองได้ไปประชุม กลับมาไม่เจอสามี จึงออกไปตามที่นา จนพบว่าผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว

นายราชัน เขียวงาม ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 3 ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าหลังจากที่ทราบข่าวว่านายศุภกิจได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ผูกคอตายนั้น ตนได้ไปที่บริเวณเกิดเหตุ ซึ่งอยู่กลางทุ่งนา เพื่อดูร่องรอยการเสียชีวิตของศุภกิจ ซึ่งไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งตรงนี้คิดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นน่าจะมาจากความเครียดเรื่องราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งที่ผ่านมานั้นนายศุภกิจได้กู้สหกรณ์มาเป็นจำนวนมาก และคิดว่านายศุภกิจคงไม่สามารถจะใช้หนี้ให้หมดได้ จึงเป็นเหตุให้ฆ่าตัวตาย

นายราชันกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา เคยคุยกันเรื่องราคาข้าวที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ซึ่งชาวนาหลายคนบ่นว่าจะทำอย่างไรที่จะใช้หนี้ใช้สินที่เป็นหนี้กันอยู่ได้ ซึ่งผู้ตายนั้นเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า นายศุภกิจผูกคอตายเพราะเครียดเรื่องหนี้สินอย่างแน่นอน

สำหรับการเสียชีวิตของนายศุภกิจ ถือว่าเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวรายแรกที่ผูกคอตายหนีปัญหาหนี้สินจากเหตุการณ์ราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้ แม้ว่าทางรัฐบาลจะออกมาช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาเพิ่มอีกไร่ละ 800 บาทก็ตาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน