กรณีรถบัสของบริษัทกันเองทัวร์กาฬสินธุ์ แหกโค้งชนต้นไม้บนถนนสาย 304 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 ศพ บาดเจ็บ 34 ราย โดยทีมกู้ภัยฮุก 31 จ.นครราชสีมา ได้นำศพมาส่งให้กับญาติที่จังหวัดกาฬสินธุ์นั้น

วันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานศพภายในวัดป่าพุทธมงคล อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เต็มไปด้วยความเศร้าสลดและต่างพากันจับกลุ่มวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า รถบัสเบรกแตก หรือ เป็นเพราะคนขับเมายาบ้า ทั้งนี้ นายบุญจันทร์ จำปาศรี อายุ 57 ปี สามีของนางนภาวรรณ จำปาศรี ผู้เสียชีวิต และเป็นญาติของ นางประจิม ถิตย์ประไพ ผู้รอดชีวิต เล่าว่า การขับรถของคนขับเฉพาะขากลับตั้งแต่ออกมาได้ขับรถเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาและวิ่งด้วยความเร็ว ซึ่งคนในรถก็ได้ไปเตือนแต่ก็ไม่ได้ผ่อนคันเร่งจนมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จากนั้นก็มีคนตะโกนว่ารถเบรกแตก แต่แล้วก็เกิดการชนเข้ากับเกาะกลางถนนและพุ่งชนต้นไม้ ส่วนตัวมองว่าเป็นความประมาทและไม่น่าให้อภัย บริษัทนี้ควรจะยกเลิกกิจการ

นายบุญจันทร์ กล่าวว่า เท่าที่สอบถาม นายประจิม ทราบว่า ภายในรถยังมีคนขับเพียงมือเดียวและมีกระเป๋ารถบัสอีกหนึ่งคน ซึ่งในกรณีเคยเตือนญาติไปแล้วว่าจะไปทัวร์จริงหรือ เพราะไม่ปลอดภัย อีกทั้งทุกปีก็จะเหมารถตู้ไปจำนวน 2 คัน แต่เมื่อเหมารถบัสและมาเกิดเหตุครั้งนี้ก็ขอให้ยกเลิกกิจการไปซะ เพราะคงไม่มีใครกล้าไปใช้บริการ อีกทั้งในการติดต่อของเจ้าของบริษัทในส่วนตัวยังไม่เห็นว่ามาพูดคุยอะไรจึงต้องการให้ออกมาแสดงตัวให้มากกว่านี้และไปกราบขอขมาญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน