เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนชัย รองโฆษกตร. กล่าวถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนระหว่างรถยนต์ ยี่ห้อมินิคูเปอร์ กับรถจักรยานยนต์ โดยปรากฎคลิปกระชากทำร้ายร่างกาย และบังคับให้กราบรถ ระหว่างนายอัครณัฐ หรือน็อต อริยฤทธิ์วิกุล กับนายกิตติศักดิ์ หรือบอย สิงโต อายุ 25 ปี อาชีพฝ่ายคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ว่า กรณีนี้ตนกำชับตำรวจสน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ โดยเมื่อวานนี้หลังมีคลิปเผยแพร่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการตรงมาที่ตนให้เร่งรัดการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ

อ่านข่าว “บอย” ยืนยันโดนชกหน้าถึง 7 หมัด “น๊อต-กราบรถ”ร่ำไห้บอกหมัดสุดท้าย ยั้งมือไม่ทันจริงๆ

201611070250051-20140401185156

พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์เห็นคลิปแล้วรับไม่ได้ ถึงแม้คดีจราจรปกติ อุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กน้อย แต่กลับปรากฏการทำร้ายร่างกายกันตามที่เห็น ก็รับไม่ได้ ดูเป็นการใช้อารมณ์และไม่มีสิทธิทำขนาดนั้น จึงสั่งกำชับให้ดำเนินการโดยเร็วตามกฎหมาย

s__33120277

“ผมเองเห็นแล้วก็รับไม่ได้เหมือนกัน แต่ยืนยันว่าการดำเนินคดี หรือแจ้งข้อหาอะไรก็ต้องดำเนินการตามพยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับกระแสสังคม จากที่ผมเห็นคลิปที่มีแพร่กันก็เห็นว่ามีการกระชากกันพาข้ามถนน มีการทำร้ายกัน 3 ชอท เท่าที่เห็นไม่มีการตอบโต้ ต่อสู้ เห็นการทำร้ายฝ่ายเดียว แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินคดี พิจารณาแจ้งข้อหาไม่สามารถตัดสินได้จากคลิปเดียว มุมเดียว เรื่องนี้มีประจักษ์พยานจำนวนมาก พนักงานสอบสวนต้องเรียกมาด้วย เพื่อดูว่าก่อนและหลังจากในคลิปเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดอื่นๆ เพื่อประกอบหลักฐาน เรื่องนี้ผมมองว่ามันเป็นอุบัติเหตุจราจร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติบนท้องถนน เกิดอะไรให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้คุมอารมณ์ อย่าใช้อารมณ์อย่างกรณีนี้ เรื่องแบบนี้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ อย่าพิพากษาเอง” พล.ต.ต.ทรงพล กล่าว

อ่านข่าว ด่วน!!! แกรมมี่ฟันแล้ว เลิกสัญญา “น๊อต-อัครณัฐ” ยุติงานพิธีกร-ดาราทันที

รองโฆษกตร. กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เรื่องนี้แบ่งการดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน 1.คือการเฉี่ยวชน ซึ่งสอบปากคำนายกิตติศักดิ์ รับว่าเฉี่ยวรถของนายน๊อตจริงแล้วหนีไป นี่คือสิ่งที่เขารับว่าหนีไป และพฤติการณ์ก็ชัดคือชนที่แยกบางรักและตามกันมาอีกจุด

dsc_2615

ส่วนรถแท็กซี่อีกคันนั้น ตนไม่ทราบว่ามีการพูดถึงหรือไม่ แต่จากจุดนี้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ในความผิดที่เฉี่ยวชนแล้วไม่แจ้งเจ้าหน้าที่แก่นายกิตติศักดิ์ โดยยึดรถทั้ง 2 คันที่เป็นคู่กรณีกันตรวจสภาพเพื่อประกอบหลักฐานที่กก.3 บก.จร. คาดว่าวันนี้จะทราบผล

ส่วนที่ 2.กรณีมีเหตุทำร้ายร่างกายกัน ที่ชัดเจนคือนายกิตติศักดิ์ได้รับบาดเจ็บ มีคลิปนายน๊อตทำร้ายนายกิตติศักดิ์ ขณะนี้พนักงานสอบสวนส่งตัวนายกิตติศักดิ์ ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเลิดสิน หากพบว่าบาดเจ็บสาหัสก็ แจ้งข้อหาอาญา มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และต้องดูด้วยว่าพฤติการณ์มีการข่มขืนใจหรือหน่วงเหนี่ยวอย่างไรหรือไม่ ถ้าเข้าก็แจ้งข้อหาเพิ่มด้วย ตรงนี้ในการทำร้ายร่างกายต้องดูพยานหลักฐานที่ปรากฎต้องดูว่าหากดั้งจมูกหัก ต้องรักษานานเพียงใด เข้าข่ายเจ็บสาหัสหรือไม่ แต่หากไม่ถึงขั้นสาหัสเป็นเพียงการทำร้ายร่างกาย ก็เป็นข้อหาลหุโทษโทษปรับ 1,000 บาท ทั้งนี้ แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นคนมีชื่อเสียง หรือมีทนายมาด้วย ก็ไม่มีผลต่อการดำเนินคดี ทุกอย่างยึดกฎหมาย พบพฤติกรรมเข้าข้อกฎหมายใดก็แจ้ง ไม่เข้าหลักฐานไม่มีก็ไม่แจ้งข้อหานั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน