เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2561 มีมติเห็นชอบให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล (ล็อตเตอรี่) แบบรวมชุด เพื่อแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา และให้เป็นไปความต้องการของผู้ซื้อ ที่ปัจจุบันนิยมซื้อสลากแบบรวมชุดเป็นอย่างมาก ทั้งรูปแบบรวมชุด 2 ใบ 3 ใบ 5 ใบ และ 10 ใบ โดยให้ไปทำประชาพิจารณ์กับส่วนที่เกี่ยวข้องในกรอบเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2561 โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วง มิ.ย.และดำเนินการออกสลากรวมชุดได้ภายในสิ้นปีนี้

“เดิมคิดว่าเดือน ก.ค.-ก.ย. สำนักงานจะสามารถออกสลากแบบรวมชุดได้เลย แต่คณะกรรมการสลากต้องการให้พิจารณาให้รอบคอบ จึงไม่ได้มีการกำหนดเวลาว่าจะต้องออกงวดแรกเมื่อใด แต่มั่นใจว่าจะต้องเป็นภายในปีนี้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การมอมเมา แต่เป็นการแก้ปัญหา เพราะสังคมมีสลากแบบรวมชุดอยู่แล้วไม่ได้เป็นของใหม่ เราก็ต้องเข้าไปแก้ปัญหาขายเกินราคา แต่ถ้าสอบถามแล้วพบว่าประชาชนไม่เอาด้วย เราก็พร้อมจะทบทวน”นายธนวรรธน์ กล่าว

ทั้งนี้ ความต้องการซื้อสลากแบบรวมชุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่มีผู้ซื้อสลากถูกรางวัลทั้ง 180 ล้านบาท 30 ล้านบาท และล่าสุด 60 ล้านบาท ซึ่งจากการสำรวจในปัจจุบันในแผงลอตเตอรี่ มีสลากแบบใบเดี่ยว 30% สลากรวมชุด 2-5 ใบ ประมาณ 60-70% และ สลากรวมชุด 10ใบขึ้นไป ประมาณ 10% ขณะที่ยอดซื้อจองลอตเตอรี่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงที่มียอดซื้อประมาณ 60 ล้านใบ ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการซื้อสลากไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากมาตรการควบคุมราคาสลากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการเข้าจับกุมและการพิมพ์เพิ่มเต็มเพดาน 80 ล้านใบ รวมทั้งการร่นระยะเวลารับสลากจากเดิม 14 วันเป็น 8-10 วันเพื่อแก้ไขปัญหารวมชุดขายเกินราคา สามารถช่วยควบคุมราคาได้ระดับหนึ่ง โดยสลากแบบใบราคาอยู่ที่ 80-100 บาท ขณะที่ราคาสลากชุดเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีความต้องการมาก เช่น ชุด 2-3 ใบ ราคา 100-110 บาท ชุด 10 ใบ ราคา 110-150 บาท ชุด 15 ใบ ราคา 125-150 บาท และชุด 20 ใบ ราคา 140-170 บาท จากเดิมสลากชุดใหญ่เคยมีราคามากถึง 200 – 250 บาทต่อฉบับมาแล้ว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ คณะอนุกรรมการจัดสรรสลากและคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ จะต้องส่งทีมลงทำประชาพิจารณ์จากผู้เกี่ยวข้อง รวม 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้ซื้อ จะต้องสอบถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ และต้องการซื้อจากที่ใด แผงประจำหรือใครก็ได้ 2.กลุ่มผู้ขาย สมาคม องค์กรนิติบุคคล และสมาคมผู้พิการ ว่าต้องการให้ทำหรือไม่ และต้องการให้มีการกระจายสลากอย่างไร 3.ความคิดเห็นจากองค์กรอิสระไม่แสวงหากำไรด้านสังคม เพื่อลดปัญหาการมอมเมา

นอกจากนี้ ยังต้องสอบถามถึงรูปแบบการออกสลากแบบรวมชุดใน 3 ประเด็น คือ 1. ต้องการให้ออกในลักษณะใด เป็นรูปแบบใบเดียวแทน 5 ใบ ขาย 400 บาท หรือ เป็นใบเดี่ยวรวม 5 ใบ หรือจะขายชุด 2 ใบ 3 ใบ อย่างใดจึงจะเหมาะสมซึ่งสำนักงานสามารถทำได้ทุกแนวทาง 2.ต้องการให้มีการออกสลากแบบชุดคิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่จากปัจจุบันที่ 80 ล้านใบ เนื่องจากจะไม่มีการเพิ่มโควตาการพิมพ์อีก และ 3.ต้องการให้จำหน่ายเป็นเฉพาะจุด มีการทำสัญญาคุณธรรม สามารถร้องเรียนตรวจสอบได้หรือไม่กรณีที่มีการขายเกินราคา

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากแบบรวมชุดจะดำเนินการภายใต้โควตาพิมพ์สลาก 80 ล้านฉบับ ไม่ได้มีการเพิ่ม ขณะที่ราคาจำหน่ายจะยังคง 80 บาทต่อใบเหมือนเดิม เช่น รวมชุด 5 ใบ ก็ขาย 400 บาท ซึ่งมั่นใจว่าการนำสลากแบบรวมชุด ไปรวมชุดจำหน่ายอีก เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก หรือมีโอกาสประมาณ 1-5% เท่านั้น เนื่องจากสำนักงานมีเทคนิกการพิมพ์สลากที่ไม่สามารถนำไปรวมชุดได้ง่าย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะต้องการฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน