ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก ซีด บช.ก.สรุปสำนวนส่งอัยการทุจริต สั่งฟ้องทั้งแก๊งรวม 5 ราย คดีร่วมรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท
วันที่ 16 ก.ค.2567 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีทุจริตระหว่าง นายนัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ผู้กล่าวหา กับกลุ่มผูัต้องหารวม 5 คน กรณีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีการเรียกรับทรัพย์สินรวมทั้งผลประโยชน์อื่นๆ ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมพยานหลักฐานรวม 11 แฟ้ม จำนวน 4,490 แผ่น
โดยวันนี้ (16 ก.ค.) ตนมอบหมายให้ พ.ต.ท.ภูริต ศรีบุญเรือง สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ปปป.นำสำนวนทั้งหมดไปเสนอต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต พิจารณาเรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้นายนัฏฐกิตติ์ กล่าวหา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก กับพวก รวม 5 คน ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ระบุว่า วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2567 ต่อเนื่องกัน ถูกกลุ่มผู้ต้องหาเรียกเอาทรัพย์สินโดยทุจริตต่อหน้าที่ เหตุเกิดที่รัฐสภา เขตตุสิต, กรมการข้าว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และที่ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย เป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท
- ศรีสุวรรณ ชี้โยนเงินทิ้ง เหตุไม่รู้ใครนำมาแขวนไว้ เมื่อเห็นน่าสงสัยจึงปัดทิ้ง
- พี่ศรีรายงานตัว ปปป. ยืนกรานไม่ได้รับเงิน เชื่อถูกเตะตัดขาสกัดไม่ให้ร้องตรวจสอบ
- เจ๋ง ดอกจิก แถลงไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ ถือพานสาบาน ถ้าทำจริงขอให้มีอันเป็นไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนนำตัวมาสอบสวน และแจ้งข้อหาที่ บก.ปปป. ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. จนถึง 15 ก.พ.ที่ผ่านมาต่อเนื่องกัน
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายยศวริศ ชูกล่อม อายุ 65 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ประกอบด้วย
1.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในตำแหน่งโดยมิชอบ
2.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
3.ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทน โดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายอันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด
4.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพฯ
5. ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตน หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับฯ
6.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
ส่วน นายศรีสุวรรณ จรรยา อายุ 55 ปี นักร้องเรียนชื่อดัง ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาที่ 3, นายเอกลักษณ์ วารีชล อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 และ น.ส.ณพัชญ์ปภา จรรยา อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่ 5 ทั้งหมดถูกดำเนินคดีเหมือนกันรวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ร่วมกันสนับสนุน เจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง
2. ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองฯ
3.ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน
4.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และชื่อเสียง
5.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมหรือยอมให้ตนได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าเปิดเผยความลับ
6.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป