เปิดผลตรวจชา-กาแฟในห้อง พบผสมไซยาไนด์ เจอสารพิษในเลือด 6 ศพ ตำรวจเร่งไล่ที่มาที่ไป ทั้ง 6 คนไปที่ไหนมาบ้าง ก่อนเสียชีวิต
จากกรณีพบผู้เสียชีวิต 6 ราย เป็นชาย 3 หญิง 3 ภายในห้องพักโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ในพื้นที่ สน.ลุมพินี โดยคาดถูกวางยาพิษ ก่อนมีรายงานว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นผู้กระทำวางยาทั้งหมด ก่อนจะเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย โดยมีสาเหตุมาจากปมหนี้สิน
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 17 ก.ค.67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. และพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผบช.สตม. แถลงความคืบหน้าของคดีนี้
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. กล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ ทั้งชา กาแฟและหลักฐานที่พบ รวมถึงตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ ผลการตรวจพบในเชิงคุณภาพ พบสารไซยาไนด์ในกาน้ำชา และถ้วยกาแฟทั้ง 6 ใบ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า จากการเก็บตัวอย่างเลือด ชายที่เสียชีวิตพบเลือดมีส่วนผสมของไซยาไนด์ ส่วนตัวอย่างอาหารอื่นๆ ต้องรอการตรวจอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าคนก่อเหตุอยู่ในกลุ่มนี้
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ทุกคนลงเครื่องบิน ได้ตรวจสอบทั้ง 6 คน ว่าไปที่ไหนมาบ้าง โดยไม่พบการเข้าพักที่อื่น จึงต้องไล่ตรวจสอบว่าไปพบใครและไปที่ไหนบ้าง รวมถึงสอบที่มาของไซยาไนด์
“ส่วนกระเป๋าไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบเพียงเอกสารที่ดินเท่านั้น โดยจะให้ล่ามแปลอีกครั้ง” พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าว
เมื่อถามว่า ผู้เสียชีวิตที่เข้าไทย 10 กว่าครั้งเข้ามาทำอะไร พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบการเข้ามาในไทยอย่างละเอียด โดยสามีภรรยาที่ตายทำธุรกิจรับเหมาทำถนนในเวียดนาม ส่วนธุรกิจที่อ้างว่าไปลงทุนนั้น ระบุจะไปทำโรงพยาบาลในญี่ปุ่น โดยเป็นข้อมูลจากญาติ