เจ้าหน้าที่เผย เหตุดินถล่ม อุโมงค์รถไฟความเร็วสูง พบสัญญาณชีพเพียง 1 ราย อีก 2 คนยังตรวจไม่พบ เร่งช่วยเหลือเต็มที่ เปิดดิน-เติมอากาศ
นครราชสีมา – วันนี้ (27 สิงหาคม 2567) ความคืบหน้าเหตุ อุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถล่มเมื่อช่วงเวลา 23.30 น. วันที่ 24 ส.ค.67 ที่ผ่านมา บริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 189+435 ห่างจากปากอุโมงค์ฝั่งคลองไผ่ ประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งมีคนงานกำลังทำงานอยู่ภายในอุโมงค์ จำนวน 3 คน พร้อมรถแบ็กโฮ รถบรรทุก และรถเก๋งอีก 3 คัน อยู่ในนั้น
โดยจุดที่คนงานทำงานอยู่ลึกเข้าไปในอุโมงค์ประมาณ 600 เมตร เป็นชาวจีน 2 คน และ พม่า 1 คน คนแรกชื่อ นายหูเสียงหมิน ชาวจีน นายช่างคุมงาน คนที่สอง ชื่อ นายต่ง ชิน หลิน ชาวจีนเป็นพนักงานขับรถแบ็กโฮ คนที่ 3 เป็นชาวพม่า ไม่ทราบชื่อ ทำหน้าที่ขับรถดั๊มบรรทุกดิน ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้รับจ้าง ได้อำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานกู้ภัยที่เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือกันอย่างเต็มความสามารถ
- พบพิกัดรถแบคโฮ-รถบรรทุกดิน ที่ถูกถล่มทับในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงแล้ว
- รมต.เผยสาเหตุ ดินถล่มในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูง เร่งดันท่อเหล็กเพิ่มอากาศ
ล่าสุด วันที่ 27 ส.ค.2567 ทีม USAR สุนัข k9 และทีมกู้ภัย ปภ.พบพิกัดที่รถแบ็กโฮ และรถบรรทุกดิน ถูกดินถล่มทับในอุโมงค์ รถไฟความเร็วสูงแล้ว และอยู่ระหว่างใช้ท่อแคสซิ่ง เป็นท่อเหล็กขนาดเล็กมีอุปกรณ์ตรวจจับตำแหน่ง ความยาว 6 เมตรต่อท่อน ทะลวงเข้าไป เพื่อเพิ่มอากาศในอุโมงค์
พร้อมทั้งช่วยเหลือและค้นหาผู้ที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์ ควบคู่กับการใช้เครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพ และสุนัข K-9 ช่วยค้นหา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้เร็วที่สุด
โดยช่วงเย็นวานนี้ (26 สิงหาคม 2567) ทีมกู้ภัยสามารถขุดเปิดดินส่วนบนที่ทรุดตัวภายในอุโมงค์ออกได้บางส่วนแล้ว และเร่งสอดท่ออากาศที่ใช้ในการปั๊มออกซิเจน ขนาดความกว้าง 1.20 เมตร เข้าไปภายในบริเวณที่คนงานติดอยู่ เพื่อจะเติมออกซิเจนช่วยชีวิตคนงาน
โดยช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจพบสัญญาณชีพ เพียง 1 รายเท่านั้น ส่วนอีก 2 ราย ยังตรวจไม่พบ ทางเจ้าหน้าที่ฯ ต้องปฏิบัติงานแข่งกับวินาทีเป็นตาย เร่งขุดเปิดดินที่ทรุดตัวออกมา และสอดท่อแคสซิ่งเพิ่มเข้าไปอีก เพื่อตรวจจับสัญญาณชีพ และเติมอากาศเข้าไปให้เร็วที่สุด ซึ่งปฏิบัติการกู้ภัยช่วยเหลือยังดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้
สำหรับผู้สัญจรใช้เส้นทางบริเวณใกล้เคียง หากพบกระบวนรถ 6 ล้อ สีส้ม คันใหญ่ 2 ขบวน บรรทุกอุปกรณ์เครื่องจักรหนักกู้ภัย ขอให้ช่วยหลีกทางและให้ทางแก่รถขนอุปกรณ์ดังกล่าวด้วย ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์หลังจากนี้ จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง
