เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่ถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. – 19 พ.ค.53 นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อน้องเฌอ และนางพะเยาว์ อัคฮาด แม่น้องเกด อาสาสมัครพยาบาล 1 ใน 6 ศพที่ถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมภายในวัดปทุมวนารามฯ ร่วมทำกิจกรรมรำลึกครบรอบ 8 ปี มีการเดินจุดเทียนเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตตามแต่ละจุดทั้งบริเวณถนนดินสอ จนถึงสี่แยกคอกวัว มีการนำดอกไม้และทะเบียนมาวางที่เสาปักป้ายบอกทางเพื่อระลึกถึงการจากไป พร้อมร่วมกันตะโกนว่าที่นี่มีคนตาย

โดยนายพันธุ์ศักดิ์ กล่าวว่า การเดินจากหน้าสตรีวิทยามายังแยกคอกวัว นอกจากทวงถามความยุติธรรมแล้ว ที่นี่ยังมีหลักฐานมากมาย ที่แยกคอกวัวมีชายชุดดำอยู่จริง แต่ไม่มีทหารเสียชีวิตที่นี่ มีแต่คนเสื้อแดงที่เสียชีวิต ซึ่งการยกเรื่องชายชุดดำเป็นสิ่งที่คอป.และศอฉ.ไม่เคยตอบได้ ที่นี่มีคนตาย 8 ปีไม่เคยคืบหน้าเลยภายใต้รัฐบาลเผด็จการคสช.

นายพันธุ์ศักดิ์ กล่าว่า ส่วนกรณีที่ศาลฎีกาบอกคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดงฟ้องผิดศาลนั้น คงต้องไปเริ่มที่ป.ป.ช. ตนและทนายอานนท์จะขยับแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้ เพราะโดนคดีอยู่เยอะ

นางพะเยาว์ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มารำลึกถึงผู้เสียชีวิตทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการนำเทียนมาจุดและวางดอกไม้รวมทั้งสิ้น 2 จุด ประกอบด้วยหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เป็นจุดที่นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สังกัดสำนักข่าวรอยเตอร์ ถูกยิงเสียชีวิต และบริเวณหน้าหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร ถ.ตะนาว ซึ่งตนถือว่าเป็นผู้สูญเสียเช่นกันจึงมารำลึกเพื่ออยากให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ว่าไม่เคยลืมผู้ที่สูญเสียไปเพราะถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งในความรู้สึกที่แท้จริงของตนนั้นไม่ควรมีการสูญเสียด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องต่อสู้กันให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ 8 ปี ที่ผ่านมา ทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้นและขบวนการต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรมก็มีมากขึ้น

“สิ่งที่คสช.อาจมองว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญนั้นตนคิดว่าสิ่งที่พวกตนออกมาต่อสู้เรียกร้องเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 53 ขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ปฎิบัติการก็คือศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อผ่านมา 4 ปี ก็เปลี่ยนมาเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะฉะนั้นจึงอยู่ในขบวนการทั้งหมด รับรู้ รู้ผิดการเสียชีวิตของประชาชนทั้งหมด ต่อให้มีอำนาจใหญ่โตแค่ไหนตนขอยืนยันว่าจะเป็นผู้นำการต่อสู้เพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษด้านขบวนการยุติธรรมต้องได้ขึ้นแน่นอน”

ด้านพ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า ตนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม รวม 40 นาย มาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่เดินทางมาร่วมจัดกิจกรรมเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากบุคคลที่ 3 โดยกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆบริเวณโดยรอบ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแม้แต่อย่างใดก่อนแยกย้ายกันกลับที่พักตามปกติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน