เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร รวม 8 รูป สวดพระอภิธรรม

201611111658516-20030315182420

ก่อนหน้านี้ เวลา 12.00 น. กองออกแบบก่อสร้างและพลับพลาพิธี กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการติดตั้งเต็นท์ปรัมพิธีที่ข้างประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง เพื่อเตรียมการรับเสด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในวันที่ 12 พ.ย. เวลา 11.00 น. ที่จะเสด็จมาทรงประทานผ้าถุงดำที่ทรงออกแบบด้วยพระองค์เอง และผ้าถุงสีดำสำหรับเด็ก เพื่อให้ประชาชนยืมใส่เข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งประทานริบบิ้นสีดำสำหรับแจกจ่ายชาวต่างชาติด้วย

201611111650565-20030315182420

ทั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงออกแบบแพทเทิร์นผ้าถุงดังกล่าวด้วยพระองค์เอง และได้ประทานแพทเทิร์นทรงออกแบบให้กับแบรนด์เสื้อชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ Asava, Disaya, Fly Now, Greyhound, Issue, Kem, Kloset, Milin, Sirivannavari, Sretsis,Tango, Teerapan, Theater, Tube, Vatanika และVickteerut ในการผลิตตัดเย็บ โดยผ้าถุงทรงออกแบบดังกล่าวเป็นผ้าถุงทรงตรง ที่ดัดแปลงเล็กน้อยให้สวมใส่ง่าย ยาวครึ่งน่อง ตัดเย็บด้วยผ้าสีดำล้วน ไม่มีลวดลาย

201611111650521-20030315182420

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ในช่วงบ่ายมีประชาชนข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เดินทางมาต่อคิวเพื่อรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จำนวนมาก แม้จะเป็นวันที่เปิดทำงานตามปกติ จนแถวยาวถึงฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา และล้นเข้าไปในท้องสนามหลวง ฝั่งทิศเหนือ ที่เจ้าหน้าที่นำเต็นท์มาตั้งเพื่อรองรับประชาชนจำนวนมาก ให้มีที่หลบแดดฝน และเป็นจุดพักคอยระหว่างต่อแถวรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ

201611111650553-20030315182420

ต่อมาเวลา 16.00 น. สำนักพระราชวังยุติการให้เข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว และเปลี่ยนทางเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากประตูมณีนพรัตน์มาเป็นประตูวิเศษไชยศรี โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ยังคงหลั่งไหลมาสักการะพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย

201611111650568-20030315182420

เจ้าหน้าที่ได้จัดแถวให้ประชาชนที่เข้ามาสักการะพระบรมศพ เดินเรียง 4 แถวอย่างเป็นระเบียบผ่านประตูพิมานไชยศรี และยืนตั้งแถวรอหน้าบริเวณพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ก่อนเข้าสักการะพระบรมศพในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเดินออกทางประตูเทวาภิรมย์ โดยมีหน่วยกู้ภัย ลูกเสือ และเนตรนารี คอยให้บริการเข็นรถเข็นให้ผู้สูงอายุและผู้พิการที่เข้าสักการะพระบรมศพด้วย ซึ่งประชาชนที่ได้เข้าสักการะพระบรมศพต่างมีสีหน้าเศร้าโศก บางคนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ และถือพระบรมฉายาลักษณ์ไว้แนบอก

201611111658514-20030315182420

นางจรรญา เลิศพิรุฬห์วงศ์ อายุ 78 ปี ชาวกรุงเทพฯ กล่าวว่า ตนเดินทางมาสักการะพระบรมศพกับชมรมชุมชนวังไพเวช ดอนเมือง โดยมารอเข้าคิวตั้งแต่เวลา 08.00 น. และได้เข้าสักการะประมาณ 16.30 น. แม้จะรอนานก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชนมามาก ตนดูข่าวก็เห็นพระองค์เสด็จฯ ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยอย่างไม่มีวันหยุด ทำให้ตนซาบซึ้งและรักพระองค์มาก ตนรู้สึกดีใจมากที่วันนี้ทางชมรมพามาสักการะพระบรมศพ เพราะปกติตนเดินทางไปไหนเองไม่ค่อยได้ ภูมิใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาอยู่ใกล้ชิดพระองค์ ตนได้อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

201611111730091-20110516172635

ด้านนายโรจน์ไพศาล เอี่ยมสุวรรณ อายุ 56 ปี นักดนตรีที่มาบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยมาสักการะพระบรมศพแล้ว ด้วยความที่ตนเป็นนักดนตรีไวโอลิน จึงตั้งใจมาบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนใหญ่จะเลือกเพลงที่พระองค์ทรงโปรด เล่น แสงเทียน ใกล้รุ่ง ยามเย็น ชะตาชีวิต เป็นต้น โดยตนจะมาเล่นคนเดียวทุกวันศุกร์ ช่วงเวลาประมาณ 17.00-21.00 น. และจะกางมุ้งนอนที่ท่าพระจันทร์ เพื่อรอร่วมบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์กับนักดนตรีท่านอื่นๆ อีกประมาณ 6 คนที่จะมาวันพรุ่งนี้ โดยจะเริ่มเล่นประมาณ 08.00 น. บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งจะมีเครื่องดนตรีประกอบด้วย แซ็กโซโฟน คลาริเน็ต กีตาร์ และไวโอลิน

“ผมรักพระองค์ท่านมาก พระองค์ทรงเปรียบเสมือนพระอรหันต์ พระองค์ทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชนมาตลอดพระชนชีพ ผมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ส่วนตัวได้น้อมนำพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความมีสติอยู่ตลอดเวลา และการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด มาใช้ในการดำเนินชีวิต” นายโรจน์ไพศาล กล่าวอย่างตื้นตันใจ

วันเดียวกัน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รรท.รองผบช.น. และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบก.จร. ประชาสัมพันธ์ข่าวเกี่ยวกับการจัดการจราจร กรณีประชาชนจะเดินทางเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 ประกอบกับห้วงเวลาดังกล่าวมีการรับพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ และมาร่วมรับพระราชทานปริญญาบัตรเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อการจราจรในภาพรวม เพื่อเป็นการอำนวยการจราจรให้แก่ประชาชน และให้ได้รับทราบข้อมูลเพื่อประกอบการวางแผนในการเดินทาง จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งปิดการจราจร ในวันที่ 12-13 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 ระหว่างเวลา 07.00-20.00 น. ใน 27 เส้นทาง และเส้นทางการเดินรถรับ-ส่งผู้มาร่วมงานรับพระราชปริญญาบัตร ม.ธรรมศาสตร์ ดังนี้

ปิดการจราจรถนน 27 สาย ดังนี้ 1.ถนนหน้าพระลาน ตลอดสาย 2.ถนนหน้าพระธาตุ ตลอดสาย 3.ถนนราชดำเนินใน จาก แยกผ่านพิภพ ถึง แยกป้อมเผด็จฯ 4.ถนนสนามไชย จาก แยกป้อมเผด็จ ถึงหน้า สน.พระราชวัง 5.ถนนหับเผย 6.ถนนหลักเมือง 7.ถนนกัลยาณไมตรี ถึง สะพานช้างโรงสี 8.ซอยสราญรมย์ 9.ถนนพระจันทร์ 10.ถนนมหาราช ตลอดสาย

11.ถนนท้ายวัง ตลอดสาย 12.ถนนเชตุพน 13.ถนนเศรษฐการ 14.ถนนพระพิพิธ 15.ถนนเจริญกรุง จาก วงเวียน รด. ถึง แยกสะพานมอญ 16.ถนนราชดำเนินนอก จาก แยก จปร. ถึง แยกผ่านฟ้า 17.ถนนนครสวรรค์ จาก แยกจักรพรรดิพงษ์ ถึง แยกผ่านฟ้า 18.ถนนหลานหลวง จาก แยกหลานหลวง ถึง แยกผ่านฟ้า 19.ถนนราชดำเนินกลาง ตลอดสาย 20.ถนนพระสุเมรุ จาก แยกวันชาติ ถึง แยกป้อมมหากาฬ

21.ถนนมหาไชย จาก แยกสำราญราษฎร์ ถึง แยกป้อมมหากาฬ 22.ถนนดินสอ จาก แยกวันชาติ ถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 23.ถนนดินสอ จาก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึง แยกมหรรณพ 24.ถนนตะนาว จาก แยกตัดถนนข้าวสาร ถึง แยกคอกวัว 25.ถนนตะนาว จาก แยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึง แยกคอกวัว 26.ถนนจักรพงษ์ จาก แยกตัดถนนข้าวสาร ถึง ถนนราชดำเนินกลาง 27.ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า จาก แยกอรุณอัมรินทร์ ถึง แยกผ่านพิภพ

ส่วนเส้นทางรับ-ส่งผู้มาร่วมงานรับพระราชทานปริญญาบัตร ม.ธรรมศาสตร์ 1.กรณีใช้รถยนต์ส่วนตัว ให้ใช้เส้นทางดังนี้ 1.เส้นทางรับ-ส่ง ให้มาทางแยกบางลำภู – ถนนจักรพงษ์ – เลี้ยวขวาเข้าถนนเจ้าฟ้า – หยุดรับส่งใต้สะพาน สมเด็จพระปิ่นเกล้า – เลี้ยวขวาเข้าถนนพระอาทิตย์ – ถนนพระสุเมรุ – แยกบางลำภู

2.จุดนำรถไปจอดเพื่อรอ รับ-ส่ง 1) หลังแยกไฟฉาย (ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตัด ถนนกาญจนาภิเษก) จอดรถยนต์ได้ 1,200 คัน 2) ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน จอดรถยนต์ได้ 200 – 300 คัน

ส่วนกรณีเดินทางด้วยเรือโดยสารให้ลงเรือที่ท่าเรือวังหลัง, ท่าเรือวัดระฆัง, ท่าเรือรถไฟ และ ท่าเรือวังหลัง – แล้วมาขึ้นที่ท่าพระจันทร์ และขอแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยงเพื่อความสะดวกในการเดินทางดังนี้

1.กรณีรถที่มาจากทางด่วนยมราชให้ใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก เพื่อไปสะพานพระราม 8 – หรือสะพานกรุงธน (ซังฮี้) 2.กรณีที่ใช้รถบนทางพิเศษ ที่มาจากทางด่วนแจ้งวัฒนะจะไปทางงามวงศ์วานให้ซ้ายออกคู่ขนานตรงทางด่วนประชาชื่นเพื่อออกไปทางถนนรัชวิภาและถนนวิภาวดี หากมาจากทางด่วนประชาชื่นลงทางด่วนพระราม 6 หากมาจากทางด่วนมักกะสันให้ลงทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หากมาจากทางด่วนพระราม 4 ให้ลงทางด่วนหัวลำโพง 3.กรณีมาจากทางคู่ขนานลอยฟ้าขาเข้าให้ใช้ถนนสิรินธร –บางพลัด – สะพานกรุงธน(ซังฮี้) หรือ ทางสะพานพระราม 8

4.กรณีประชาชนจากฝั่งธนบุรีที่จะเข้ามาร่วมงานพระราชพิธีฯ ขอให้ใช้บริการเรือข้ามฟากมา
ท่าพระจันทร์ และท่าช้าง

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ว่า ที่ประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมให้ประชาชนที่จะเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพในช่วงวันวันที่ 12-14 พ.ย. ซึ่งตรงกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงต้องเตรียมความพร้อมเรื่องของการจราจร โดยจะปิดเส้นทางทั้ง 27 เส้นทางโดยรอบตั้งแต่เวลา 07.00 -20.00 น.และเมื่อเสร็จสิ้นพิธีก็จะมีการผ่อนปรนในบางจุดเพื่อให้การจราจรคล่องตัว ซึ่งข้อแนะนำสำหรับประชาชนและผู้ปกครองที่จะเข้ามาร่วมในพิธีให้ใช้เส้นทางถนนสามเสนเข้าบางลำพู เข้าถนนเจ้าฟ้า เพื่อรับ-ส่งและใช้ถนนพระอาทิตย์กลับวนออก

ขณะที่ประชาชนจากย่านฝั่งธนบุรี สามารถขับรถมาโดยใช้ถนนกาญจนาภิเษกและจอดบริเวณสามแยกไฟฉาย และเลียบทางรถไฟตลิ่งชั่น ขณะที่ประชาชนที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ สามารถใช้บริการรถขนส่งมวลชน (ขสมก.) ที่ให้บริการ สำหรับประชาชนที่ประตูทางออกติดท่าราชวรดิฐจนถึงเวลา 23.00 น. เพื่อรอรับประชาชนที่ตกค้างในช่วงเย็น นอกจากนี้ ได้ประสานกทม.และตำรวจค่อยดูแลบริเวณท่าเรือที่มีประชาชนสัญจร เช่น ท่าวัดระฆัง ท่าเรือพรานนก

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนจองคิวออนไลน์เข้าสักการะพระบรมศพ ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นำซอฟต์แวร์โปรแกรมมาให้ตรวจสอบแล้ว คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเริ่มทดสอบระบบการใช้งานและในวันที่ 1 ธ.ค. จะพร้อมในการดำเนินการ ซึ่งจะหารือถึงรายละเอียดการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ระบบจองคิวออนไลน์ถือเป็นระบบเสริม โดยระบบหลักจะยึดหลักเข้าคิวกลุ่มให้ประชาชนที่เดินทางมารอเข้าคิวด้วยตัวเองก่อน ยกตัวอย่าง อาจเปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนออนไลน์เข้าสักการะในวันอังคาร ขณะที่ผู้เดินทางมาด้วยตัวเองจะให้เข้าในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ เป็นต้น

สำหรับการจัดงานลอยกระทงในวันที่ 14 พ.ย.นี้ สามารถจัดได้ตามปกติ โดยงานรื่นเริงพิจารณาจัดตามความเหมาะสม ขณะที่ในภาพรวมระบบการบริหารจัดการพื้นที่ฝั่งเหนือของสนามหลวงสำหรับสร้างพระเมรุมาศถือว่าเริ่มเข้าที่ ทั้งเรื่องของเต็นท์พักรอของประชาชน และการอำนวยความสะดวกต่างๆ คาดว่าภายในเดือนพ.ย.นี้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน