ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบหนุ่ม เปิดช่องยูทูบ ขายลำกล้อง-ปืนออนไลน์ ค้นตัวเจอยาบ้า 4 เม็ด ค้นบ้านเจอของกลางเพียบ เผยคำให้การ อ้างมีไว้เพื่อป้องกันตัว
วันที่ 20 ธ.ค.2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5. และ พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3
นำหมายค้นศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 221,222/2567 ลงวันที่ 18 ธ.ค.67 ค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ต.ท่าซอม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จับกุมตัว นายชัยยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พร้อมยาบ้า 4 เม็ด
ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบหนุ่ม เปิดช่องยูทูบ ขายลำกล้อง-ปืนออนไลน์ ค้นตัวเจอยาบ้า 4 เม็ด ค้นบ้านเจอของกลางเพียบ เผยคำให้การ อ้างมีไว้เพื่อป้องกันตัว
ปืนแบลงค์กันดัดแปลง ลูกโม่ 1 กระบอก ปืนแบลงค์กันดัดแปลงกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. 5 กระบอก ปืนอัดลมยาวประดิษฐ์ 1 กระบอก ส่วนประกอบปืนอัดลมยาว ติดกล้อง 1 ชุด แม็กกาซีน 9 อัน และกระสุนปืน 403 นัด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนทางสื่อออนไลน์พบมีการลักลอบซื้อขายลำกล้องปืนที่มีเกลียวข้างในผ่านทางแอปพลิเคชัน YOUTUBE ชื่อบัญชี “ตนมี ฝีมือ” จึงได้มีการพูดคุยเพื่อติดต่อสั่งซื้อลำกล้องปืนเหล็กที่มีเกลียวข้างใน ในราคาละ 2,050 บาท
โอนเงินเชื่อบัญชี ประภัทร (ขอสงวนนามสกุล) และได้รับพัสดุที่สั่งจากชื่อบัญชี “ตนมี ฝีมือ” สินค้าในกล่องพัสดุที่ได้ส่งมาให้นั้น คือลำกล้องปืนเหล็กที่มีเกลียวข้างใน พบว่าเป็นปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนขยายผล ตรวจสอบจากข้อมูลการส่งพัสดุลำกล้องปืน
พบข้อมูลการส่งพัสดุชื่อของ น.ส.ดวงหทัย (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้จัดส่งพัสดุซึ่งมีการจัดส่งพัสดุทั้งหมด 119 ครั้ง พบข้อมูลการจัดส่งพัสดุจากแอดมินชื่อบัญชี “ตนมี ฝีมือ” ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไลน์ซื้อขายอาวุธปื
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายค้นศาลจังหวัดปากพนัง เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวพบ น.ส.บุษญา (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น และเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
ภายในห้องนอนของ น.ส.บุษญา ซึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบ้านหลังนี้ตนเองอยู่กับสามี นายชัยยุทธ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในห้องนอนพบของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก
จากการสอนสวน น.ส.บุษญา ให้การยอมรับว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายชัยยุทธ ได้ออกไปทำงาน รับจ้างสูบน้ำในพื้นที่น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับตัวนายนายชัยยุทธขณะทำงานสูบน้ำ ตรวจค้นภายในรถกระบะ พบอาวุธปืนแบลงค์กัน กึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และกระสุนปืน 9 มม. 6 นัด และพบยาเสพติด ยาบ้า 4 เม็ด ซ่อนอยู่ในกระเป๋า
นายชัยยุทธ ให้การยอมรับว่า อาวุธปืนแบลงค์กัน กึ่งอัตโนมัติ และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นของตนจริง แต่ยาบ้าไม่ได้เป็นของตน เป็นของนายนัน เป็นคนงานจับกุ้งได้ฝากใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายของตน
ต่อมาจึงได้ขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ พบการสนทนาซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์ในแอปพลิเคชันไลน์ ที่ใช้ในการสั่งซื้ออาวุธปืนออนไลน์ ส่วนอาวุธปืน กระสุนปืนทั้งหมดที่พบภายในห้องนอนที่บ้านภรรยาเป็นของนายชัยยุทธจริง
นายชัยยุทธ ให้การว่า โดยตนครอบครองมานานหลายปีแล้ว เป็นผู้ที่มีความชื่นชอบในเรื่องเกี่ยวกับอาวุธปืน มีไว้เพื่อป้องกันตัวหรือป้องกันทรัพย์สินของตนเอง โดยอาวุธปืนทั้งหมดตนติดต่อสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ อาวุธปืนสั้นแบลงค์กันของกลาง ที่ดัดแปลงให้ยิงกระสุนจริงได้ ซื้อมาในราคากระบอกละ 15,000-20,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางนบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
