เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ค. กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.พิรัตน์ นาสมวาส รอง ผบก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ กก.6 บก.ปคม. ร่วมแถลงผลจับกุม นายทศพล หรือเจ ภาชีศัพท์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1050/2559 ลงวันที่ 2 มิ.ย.59

201607141137062-20041019160133
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า สืบเนื่องจากประมาณต้นเดือน มี.ค.57 น.ส.หวาน หรือ หล้า (สัญชาติลาว) พานางสุนีย์ หรือเจ้อ้อย โสดารส และนายพิสุทธิชัย หรือเณร โสดารส ซึ่งเป็นคนไทยและเป็นเจ้าของร้าน “อ้อยคาราโอเกะ” อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปที่ประเทศลาวพร้อมกับชักชวน น.ส.น้อย (สัญชาติลาว) เพื่อมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารของตัวเอง อ้างว่ามีรายได้เดือนละ 9,000 บาท ก่อนตกลงและตัดสินใจเดินทางไปทำงานด้วยแต่ขณะนั้น น.ส.น้อย อายุประมาณ 12-13 ปี ซึ่งผู้ชักชวนก็ทราบ โดยมีน.ส.หวาน เป็นคนจัดทำเอกสารการเดินทางให้ทั้งหมดและพา น.ส.น้อย เข้ามายังประเทศไทยผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย ก่อนมาส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต จากนั้น มีนายทศพล หรือเจ ภาชีทรัพย์ ซึ่งเป็นลูกชายเจ้อ้อย ขับรถมารับและพาเดินทางต่อมายังร้านอาหารดังกล่าว
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวอีกว่า เมื่อมาถึงร้านอาหาร น.ส.น้อยถูกเจ้อ้อย บังคับให้ขายบริการทางเพศและอ้างว่ามีการโอนเงินให้กับ พ่อแม่น.ส.น้อย เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท หลังจากนั้นน.ส.น้อย ได้ยอมทำงานรับแขกโดยไม่ได้รับเงิน แต่กลับเป็นหนี้จนถึงหลักแสนบาท รวมทั้งถ้าไม่ทำงานจะถูกทำร้ายร่างกายและขู่จะไปฆ่าพ่อแม่อีกด้วย ทั้งนี้ น.ส.น้อยขายบริการชั่วคราวได้ 1,500 บาท ค้างคืน 3,000 บาท ซึ่งจะมีนางพร (ไม่ทราบนามสกุลจริง) ทำหน้าที่เชียร์แขกและเป็นผู้นำเงินส่งเจ้อ้อยอีกที
“ต่อมาน.ส.น้อย เกิดตั้งครรภ์และใช้ความสงสารหลบหนีออกมาได้สำเร็จ ก่อนขึ้นรถไฟจากสถานีหาดใหญ่ เดินทางต่อมายัง จ.หนองคาย ซึ่งไม่มีเอกสารติดตัวมาด้วยตำรวจไฟหนองคาย จึงประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย เพื่อเข้าตรวจสอบพร้อมส่งไปยังบ้านนารีสวัสดิ์ จ.นครราชสีมา ดูแลช่วยเหลือต่อไป” ผบก.ปคม. กล่าว
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายในคดีนี้ พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ปคม. ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1.นางสุนีย์ หรือเจ้อ้อย โสดารส 2.นายพิสุทธิชัย โสดารส 3.นายทศพล ภาชีทรัพย์ และ 4.นางพร จากนั้นเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว นางสุนีย์หรือเจ้อ้อย กับนายพิสุทธิชัย เมื่อวันที่ 31 มี.ค.59 ส่วนนายทศพล จับกุมได้ล่าสุด วันที่ 13 ก.ค.59 ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับนางพรอยู่ระหว่างหลบหนี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายทศพลตามความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 และ พ.ร.บ.เด็ก พ.ศ.2546 ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี
นอกจากนี้ บก.ปคม. ได้แถลงผลจับกุมขบวนการค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน 4 ราย ประกอบด้วย นายก้องเกียรติ เพียรแสวงบุญ (สัญชาติไทย) นางอัน นายคานเมน และ นายโบโบ (สัญชาติเมียนมา) ซึ่งถูกส่งดำเนินการฝากขังต่อศาลจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ก.ค.59
พล.ต.ต.กรไชย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.6 บก.ปคม. รับการประสานจากเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ขอให้ช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมาที่ถูกหลอกมาทำงานที่จ.ปัตตานี จากนั้น วันที่ 10 ก.ค. เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือลูกเรือประมงสัญชาติเมียนมาได้หลายราย ก่อนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 ราย
พล.ต.ต.กรไชย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกมาทำงานที่กรุงเทพฯ โดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนองแต่กลับพามา จ.ปัตตานี ก่อนส่งขึ้นเรือประมงและอ้างว่าให้ค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท แต่สุดท้ายถูกบังคับใช้งานบนเรือ กระทั่งผู้เสียหายแอบโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ และสุดท้ายได้ประสานเจ้าหน้าที่ดำเนินการช่วยเหลือสำเร็จ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551, พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522, พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน