6 สาวเล่านาทีจำลองตกเรือ ขนลุกใส่ชุดสวมบท แตงโม ไม่เชื่อฉี่ท้ายเรือได้ เล่าถึงเสียงปริศนา ขณะทดลองตกเรือ ณวัฒน์เชื่อส่วนตัวฆาตกรรม 100%
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ม.ค.68 ที่โรงแรมริเวอร์ไรน์เพลส โฮเทล แอนด์เรสซิเดนซ์ บอสณวัฒน์ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของมิสแกรนด์ และผู้สาธิตแสดงเป็นแตงโม 5 คน ตกน้ำคนละ 1 ครั้ง ได้แก่ “น้องปอย” มิสแกรนด์นครพนม, “น้องเฟริน” มิสแกรนด์นครสววรค์, “น้องฟ้าบาร์บี้” มิสแกรนด์เชียงใหม่, “น้องนิวหยก” มิสแกรนด์ชุมพร และ “ครูลิต้า” ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก, ขณะที่ผู้สาธิตแสดงเป็น “แซน” ได้แก่ “น้องหนูวรรณ” มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการจำลองเหตุตกเรือของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาว ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565
บอสณวัฒน์ กล่าวว่า ความตั้งใจของเราเป็นความตั้งใจ เพื่อต่อสู้กับอิทธิพลและความเอาเปรียบของบางคนที่มีเงินหรือมีกฎหมายในมือ แต่ในช่วงของการแถลงข่าว แซน วิศาพัช พูดว่านึกว่าดูละครของความบันเทิงในช่วงที่มีการจำลอง ขออย่าดูถูกเหยียดหยามกัน ปากมีไว้พูดสมองมีไว้คิด เพราะคิดแล้วถึงมาทำ ล่าสุดมีการบอกข้อมูลเพิ่มก่อนแตงโมตกน้ำ จะจับกับกาบเรือไว้ ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การตอนแรก ที่พบว่าไม่เห็นตอนที่แตงโมตกเรือ วัตถุประสงค์วันนี้การจำลองสถานการณ์ เพื่อต้องการให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ สำหรับตนยังยืนยันว่า เป็นการฆาตกรรม 100% แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุ
บอสณวัฒน์ กล่าวว่า หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว พิสูจน์ได้ว่าคดีนี้เป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม ถ้าหากเป็นอุบัติเหตุ ผู้ที่จำลองเหตุการณ์ก็จะเตรียมพร้อมขึ้นศาล เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการฟ้องอีกเยอะ แต่ถ้าหากเป็นคดีฆาตกรรมจะได้เห็นข้าราชการบ้าง เพื่อนบ้าง แม่บ้างได้รับโทษ ตนมีความเชื่อมั่นใจว่าบาดแผลที่ขาแตงโมไม่ได้ถูกใบพัด และเชื่อว่าแตงโมไม่ได้ปัสสาวะที่ท้ายเรือ เพราะว่ามีห้องน้ำ
ช่วงท้ายที่เกิดเหตุมีเพื่อนของแตงโมออกมาโวยวาย แต่อยู่ๆ ก็เงียบกันหมด เพราะว่ามีคนสั่งให้หยุดพูด ประเด็นนี้ก็เป็นประเด็นที่ทำให้ตนไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอุบัติเหตุ
“ปอย” มิสแกรนด์นครพนม เปิดใจคนแรกว่า “ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองครั้งนี้ เพราะได้ติดต่อไปทางเพจของอาจารย์ปานเทพ วันนี้พอได้ไปอยู่บนเรือจริง ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่คิดไม่ผิดเลยที่เอาตัวเองมาทำแบบนี้ จึงรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก“
ส่วนตอนที่เดินอยู่บนเรือ ไม่ได้มีความรู้สึกกลัวเลย เพราะอยากทำ อยากรู้ว่าถ้าสวมบทบาทเป็นแตงโมจะรู้สึกอย่างไร ในหัวมีแต่ภาพความสงสัยและอยากรู้มากกว่า
“ปอย” บอกอีกว่า ช่วงที่ตกน้ำลงไป ยอมรับว่าทรงตัวยากมากและพยายามเป็นแตงโมให้ได้มากที่สุดว่าจะทรงตัวได้หรือไม่ ขณะที่เรือกำลังแล่นด้วยความเร็ว 8 นอต และยิ่งช่วงตอนไปนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือ มือหนึ่งต้องจับขาเพื่อนไว้และอีกมือต้องถกกระโปรงขึ้น รวมถึงยังต้องขยับไปปัสสาวะให้ใกล้น้ำมากที่สุด ก่อนตกน้ำลงไป ก็รู้สึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าใต้น้ำเป็นอย่างไร แต่โชคดีที่เราสวมเสื้อชูชีพ มันอาจจะไม่ได้ทำให้ตัวเราจมลงขนาดนั้น แต่เท่าที่เห็นสภาพใต้น้ำ มันมืดมาก และก็มีขยะ มีดินเยอะมาก น้ำสกปรกพอสมควร
ส่วนพอได้ใส่ชุดแตงโมในวันนี้ ก็รู้สึกขนลุก เพราะชุดเหมือนมาก ยิ่งอยู่ในช่วงจำลอง ยิ่งพูดถึงชื่อ “แตงโม” น้ำตามันจะไหล เพราะเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องจริง มันน่าเศร้ามาก การที่เราตกน้ำลงไปและยิ่งไม่มีใครเหลียว หรือคิดที่กลับมาวนหา มันน่าสงสาร จึงขอขอบคุณที่อาจารย์ปานเทพและคุณอัจฉริยะที่ตั้งใจจะกลับมารื้อคดีและคืนความยุติธรรมให้กับแตงโม
ด้าน “ฟ้าบาร์บี้” มิสแกรนด์เชียงใหม่ บอกว่า รู้สึกคิดถูกมากที่มาสมัครครั้งนี้ พอประกาศผล ก็รู้สึกอุ่นใจที่ทั้งหมดเป็นมิสแกรนด์ เพราะจะได้ดูแลกันได้ และเจ้าหน้าที่เองก็มีระบบเซฟตี้ที่ดี จึงไม่มีความรู้สึกกังวลใจและรู้สึกว่าคิดถูกที่มาร่วมทดลองวันนี้ โดยยอมรับว่ารู้สึกว่าคดีนี้มีความไม่ชัดเจนหลายอย่าง จึงอยากมาร่วมพิสูจน์และอยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม
ส่วนวินาทีที่เดินลงไปที่ท้ายเรือ ก็แอบกังวลใจนิดหน่อย ระหว่างที่เดินไปก็แอบคิดว่า ถ้าเป็นแตงโมจริงและปวดปัสสาวะจริง แล้วจะต้องเดินไปท้ายเรือจริง สามารถเป็นไปได้หรือไม่ ก็เลยคิดสวมบทบาทดูว่า ถ้าเป็นแตงโมจะรู้สึกอย่างไร พอเดินไปที่ท้ายเรือ ก็รู้ว่าไม่น่าที่จะเดินไปปัสสาวะได้ เพราะมีความโคลงเคลงของเรือและยิ่งถ้ามีอาการมึนเมา ยิ่งไม่สามารถที่จะเดินไปได้เลย จึงมองว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถกกระโปรงขึ้น แล้วไปปัสสาวะตรงนั้น เพราะเสี่ยงที่จะร่วงน้ำไปเลย อีกทั้งตอนนั่งน้ำมันขึ้นมาจนถึงเอวด้วย
“ฟ้าบาร์บี้” บอกอีกว่า ตอนตกน้ำก็ยอมรับว่าหวั่นๆ แต่ก็พยายามเป็นแตงโม และตะโกนเรียกแซนให้เหมือนจริงที่สุด ซึ่งวินาทีนั้น ไม่ได้กังวลใจอะไร พอลงไปน้ำ ก็พลิกตัวนิดนึง และก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล จึงไม่เจ็บและไม่สำลักน้ำ ส่วนการโดนใบพัดเรือ เป็นไปได้ยากมาก เพราะเรือมันพุ่งไปเลย แถมคลื่นดันตัวออกมาอีก
“ส่วนวันนี้ที่ได้สวมชุดแตงโม ครั้งแรกที่ใส่ชุดก็รู้สึกคิดถึงเขา เพราะเขาได้หายไปจากพวกเราเกือบ 3 ปี ทำให้เรากลับมาเห็นภาพเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาจะรู้สึกอย่างไรที่เขาตกน้ำอย่างโดดเดี่ยว เขาคงรู้สึกเหงา และรอคอยว่าใครจะมาช่วย จึงอยากทำภารกิจในวันนี้ให้สำเร็จ ให้ได้รับความกระจ่างที่เขาควรจะได้รับ วันนี้พวกเราได้ทำเพื่อแตงโมแล้ว เชื่อว่าเขาคงรับรู้ได้ว่ายังคงมีคนที่คิดถึงเขาและรักเขา ไม่เคยที่จะลืมเขาเลยสักครั้ง”
จากนั้น “เฟ-ริน” ตอบเช่นกันว่า คิดถูกที่มาวันนี้ จึงพยายามเป็นแตงโมให้มากที่สุด ยิ่งตอนบนเรือและไปที่ท้ายเรือ ไม่กลัวอะไรเลย มีแต่ความสงสัยว่า จะเป็นไปได้หรือ ผู้หญิงที่เป็นดาราเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย จะสามารถไปนั่งแหวกกระโปรงให้ผู้ชายคนอื่นดู ไม่น่าจะเป็นไปได้ และยิ่งถ้าเมา แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเรือโคลงเคลง หรือถ้าตกลงไปจริง มันไม่มีทางโดนใบพัดได้
“ส่วนตอนตกเรือก็รู้สึกว่าถ้าเป็นแตงโมในวันนั้น คงจะตะโกนสุดเสียง จึงสงสัยว่าเพื่อนจะไม่ได้ยินเราเลยหรอ แทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย โดยการสวมชุดที่เป็นภาพจำของใครหลายคนในวันนี้ ยิ่งเป็นคดีใหญ่มาก จึงรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มันหดหู่และเศร้าใจ เราจึงพลังกันและเราจะสู้และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแตงโม”
ด้าน “นิวหยก“ มิสแกรนต์ชุมพร กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เรากำลังจำลองสถานการณ์อยู่ พยายามใช้สัญชาตญาณของตัวเองในการเดินบนเรือว่า ต้องประคองหรือว่าพยุงตัวเองอย่างไร ซึ่งเป็นคนเดียวที่ตกเรือทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกเธอกำลังเกาะขา “หนูวรรณ” ที่แสดงเป็นแซนอยู่ ซึ่งในตอนนั้นเธอได้ยินเสียงผู้หญิงนับ 1 2 3 จากนั้น ก็ปล่อยตัวเอง หล่นลงจากเรือ แต่ได้ยิน “หนูวรรณ” ตะโกนว่า “เดี๋ยว!“
จากนั้นคนบนเรือก็บอกว่า ตกก่อนจุด จึงให้โดดอีกรอบ จึงทำแบบเดิมอีกครั้ง ก่อนที่จะขึ้นจากเรือมา แล้วบอกกับทีมงานว่า ได้ยินเสียงผู้หญิงนับ เข้าใจว่าเป็นหนูวรรณ แต่หนูวรรณบอกว่า “ยังไม่ได้พูด“ ตอนนั้นก็ตกใจมาก เพราะไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใคร
ขณะที่ บอสณวัฒน์ ที่อยู่บนเรือ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงชัดเจน จึงเข้าใจว่าเป็นเสียง ”หนูวรรณ“ ที่แสดงเป็นแซน เนื่องจากบนเรือลำดังกล่าวมีเพียงผู้หญิงแค่ 2 คน ก็คือ นิวหยกและหนูวรรณเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อกลับมาเปิดคลิปดู ปรากฏว่า ได้ยินเสียงของผู้หญิงนับถอยหลังจริง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเสียงใคร
ต่อมา “หนูวรรณ” มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา บอกว่า วันนี้ร้องไห้ตั้งแต่เช้า และการได้รับบทบาทการจำลองเป็นแซน ก็ยิ่งรู้สึกใจหวิวถ้าเห็นเพื่อนลงน้ำไป ซึ่งจำลองเป็นแซน 4 ครั้ง ก็ใจหวิวทุกครั้ง และคิดว่าถ้าเพื่อนร่วงลงไปจริงๆ ยังไงก็เห็นและต้องมีอาการตกใจแน่นอน โดยในครั้งที่ 5 ได้จำลองเป็นแตงโม ก็ยังรู้สึกว่าการจะเดินไปปัสสาวะที่ท้ายเรือนั้น เป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องของการไม่ใส่เสื้อชูชีพในการจำลองนั้น เพราะอยากให้การจำลองสมจริง
ส่วน “ครูลิต้า” ระบุว่า เมื่อนายปานเทพประกาศรับสมัคร เพื่อนๆ ก็ส่งรายละเอียดมาให้ เลยตัดสินใจมาเป็นอาสาสมัคร รู้สึกคิดถูกแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะทำไม่ได้เลย ถ้าหากว่าวันนี้ไม่ได้สมัคร เคงจะเสียใจที่ไม่ได้มาเป็นอาสาและไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไร ส่วนวันนี้สวมชุดแตงโม ก็นึกถึงเหตุการณ์วันนั้น เพราะเป็นชุดสุดท้ายของชีวิตเขา วันนั้นเขาสวยมาก