วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รอง ผกก.สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้ง เหตุชายตกจากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยนารายรักษ์ 3 ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกู้ชีพมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวร รพ.สมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นตึกสูง 6 ชั้น บริเวณลานจอดรถหลังอาคาร 1 พบศพนายชัยณรงค์ ผลเหลือ อายุ 49 ปี ชาวจ.กำแพงเพชร สภาพศพ สวมเสื้อยืดสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด พลิกศพมีบาดแผลแตกที่ศีรษะขนาดใหญ่ ตรวจสอบบริเวณชั้นดาดฟ้า พบเสื้อแจ็คเก็ตสีดำซึ่งมีโทรศัพท์มือถือซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อ 2 เครื่อง และ สร้อยคอเชือกถังสีดำเหรียญสมเด็จแขวนอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องพักที่ 524 ซึ่งเป็นห้องของผู้ตาย พบกระดาษ 2 แผ่นติดอยู่ที่ประตู โดยแผนแรกมีข้อความ เขียนด้วยลายมือว่า “พี่ชายถ้าผมตาย มาเผาผมที่หนามแดง น้องขอร้อง น้าแหวง..ผมขอโทษครับ ผมอ่อนแอเกินไป ผมอยากเอาย่างน้า ผมเหมือนหรอกตัวเอง ชีวิตผมสูญเสียทุกอย่าง ผมรู้น้ารักผม แต่เมื่อทำไม่ได้ จุดจบมันสมควร เป็นแบบนี้ และแผ่นที่ 2 มีข้อความว่า อาหลิน อโหสิกรรมนะสำหรับ ทุกสิ่งทุกอย่าง..ชาติหน้ามีจริง จะทดแทนให้ อาติ..ลุงเอียดขอโทษนะ รักอาติ นรกที่แท้จริง คือ.. ชีวิตที่ผิดพลาด เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพไว้ประกอบสำนวนคดี
จากการสอบถาม นายแสวง จิ๋วใด อายุ 55 ปี เพื่อนของผู้ตายกล่าวว่า ผู้ตายทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางนา หลังจากเลิกงานก็จะมาขับวินมอเตอร์ไซค์ที่เดียวกับตน ปากซอยเทพานิเวศ ซึ่งช่วงคืนที่ผ่านมาผู้ตายได้ส่งข้อความผ่านไลน์มาหาตนว่า น้าครับผมมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น ผมสาบานว่าจริง ถ้าผมรอดไปจะเล่าให้ฟัง กระทั่งเช้าวันนี้ หลังจากผู้ตายออกกะมา และเข้ามาที่วิน จึงเล่าเรื่องดังกล่าวให้ฟังว่าระหว่างที่เข้าเวรยามอยู่ผู้ตานนอนไม่ได้เลย เพราะผีหลายตนเข้ามาหลอกหลอน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กระทั่งช่วงสายผู้ตายจึงได้เดินทางกลับไปที่ห้องพัก ตนมาทราบข่าวอีกทีว่าเพื่อนเสียชีวิต จึงได้เดินทางมาดู
นายเชิด พรมแต่ง อายุ 48 ปี ช่างประจำอพาร์ตเมนต์ เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังตกแต่งห้องอยู่ที่ชั้น 2 ของ อาคาร 2 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคล้ายกับของหล่นลงมาจากที่สูง ตนจึงได้ชะโงกหัวออกไปดู พบเห็นมีคนนอนแน่นิ่งอยู่ที่ลานจอดรถ จึงได้วิ่งมาดูและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
ส่วนทางด้านพยานแวดล้อม ระบุว่า ผู้ตายเข้ามาพักอาศัยอยู่ที่อยู่ลำพังตั้งแต่ปี 56 ซึ่งแต่ละวันหลังเลิกงานมาผู้ตายก็จะลงมาซื้อสุราดื่มเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าผู้ตายมีปัญหาเครียดเรื่องส่วนตัวอะไรหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะเครียดปัญหาส่วนตัวก่อนเดินขึ้นไปบนด้านฟ้าและถอดเสื้อแจ็คเก็ตและสร้อยพระทิ้งไว้ก่อนจะกระโดดลงมาเพื่อปลิดชีพตัวเอง อย่างไรก็ตามได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการนำส่งชันสูตรที่ นิติเวช รพ.ตำรวจเพื่อชันสูตรต่อไป
