นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์ – แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว จะดูสดใสด้วยตัวเลขยอดขายทะลุ 1 ล้านคันอย่างเป็นธรรมชาติ และยังมีอัตราเติบโตขึ้นถึงประมาณ 20% จากที่หดตัวตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ดูแล้วเชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดว่าโมเมนตั้มความแรงของยอดขายจะยังคงอยู่ต่อเนื่องต่อไป ด้วยเหตุที่ตลาดอั้นมานาน รวมถึงมีข่าวดีเรื่องการเลือกตั้ง แน่นอนว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายได้เป็นอย่างมาก

แต่ถึงกระนั้นดูเหมือนไม่ได้ช่วยให้บรรดาผู้บริหารค่ายรถยนต์จะกล้าประเมินตัวเลขยอดขายของปี 2562 นี้ ให้เติบโตหวือหวาเหมือนเช่นปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบได้ไม่มากก็น้อย

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2562 เศรษฐกิจในประเทศมีปัจจัยที่แนวโน้มไปในเชิงบวกหลายเรื่อง ทำให้ยังเติบโตต่อเนื่องได้อีก

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร

แต่ปัจจัยภายนอกมองค่อนข้างยาก เศรษฐกิจโลกไม่น่าจะเติบโตขึ้น จากสงครามการค้าประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา ส่วนจะกระทบมาถึงประเทศไทยมากน้อยแค่ไหนตอบยาก ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

แต่ปัจจัยที่กระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจเห็นชัดเจนคือเรื่องค่าเงินบาท ที่อ่อนค่าลงน้อยกว่าประเทศคู่ค้าหลายประเทศที่อ่อนค่าลงมากกว่า ซึ่งจะส่งผลกับการส่งออกอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

“ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้น่าจะเติบโตได้ประมาณ 5% เนื่องจากมีปัจจัยเชิงบวกอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น การเปิดตัวรถ รุ่นใหม่รองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่ม ซี-เซ็กเมนต์ ทั้งรถเก๋งซีดาน และรถเอสยูวี ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายพิทักษ์กล่าว และว่า ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อรถยนต์ จะพิจารณาความคุ้มค่าและเหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ไฟแนนซ์ ยังได้ออกนวัตกรรมการเงิน ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

นายทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ ‘อีซูซุ’ กล่าวว่าปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง ที่กระตุ้นเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน ขณะที่ภาคการก่อสร้างมีโครงการใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ ทำให้เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวดี ส่งผลดีกับอุตสาหกรรมรถยนต์ กระแสและโมเมนตั้มยังคงต่อเนื่องถึงปี 2562 นี้แน่นอน เพราะความต้องการใช้งานของลูกค้า แต่จะไม่สูงมากเท่ากับปีที่แล้ว

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

นายทาเคชิ คาซาฮาระ

นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศไทย ปี 2562 ดีขึ้นอีกอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยบวกในเรื่องของการเลือกตั้ง ทำให้ส่งผลต่อการบริโภค และการลงทุน แต่ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก จากสงครามการค้า สภาวะเศรษฐกิจของยุโรปที่ยังน่าเป็นห่วง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่สูงขึ้น กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคค่อนข้างมาก

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

นายโมริคาซุ ชกกิ

อย่างไรก็ตามมองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ ในปี 2562 นี้ เติบโตขึ้นได้อีกประเมินไว้ที่ 3% โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งมีความต้องการใช้งานรถปิกอัพเพิ่มมากขึ้น

ส่วนกรณีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อในช่วงแรก จากนั้นก็จะกลับมาใช้จ่ายเหมือนเดิม หากมีความต้องการใช้งาน มองว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้นๆ เท่านั้น

ด้าน น.ส.ปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2562 นี้ มีทั้งปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลกทำให้การส่งออกชะลอตัว ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน และหนักมากตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

น.ส.ปิยะนุช จตุรภัทร์

แม้ในปีนี้จะมีการเลือกตั้ง แต่อาจไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมได้มากนัก ทำให้มองว่าจะกระทบกับตลาดรวมรถยนต์ จนทำให้ยอดขายในปีนี้ไม่เติบโตขึ้น และอาจจะหดตัวลงด้วยถ้าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้ มองว่าจะลงไปที่ 980,000 คัน ก็เป็นได้ จากเมื่อปีที่แล้วกว่า 1 ล้านคัน

ขณะที่ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2562 ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง ช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศกลับคืนมา โดยเฉพาะจากประเทศจีนที่เข้ามาลงทุนจำนวนมหาศาล

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข

อีกทั้งการขับเคลื่อนโรดแม็ปและผลของเมกะโปรเจ็กต์เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างแน่นอน

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการที่สถาบันการเงิน มีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้เกิดการชะงักในการจับจ่ายใช้สอย ส่วนสงครามการค้าจีน และสหรัฐอเมริกา มีผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย เพียงแต่ยังอาจจะประเมินในตอนนี้ได้ค่อนข้างยากว่าจะมากน้อยเพียงใด

ส่วนตลาดรถยนต์โดยรวมในปีนี้มองว่าจะเกิน 1 ล้านคันอีกอย่างแน่นอน ด้วยสภาวะเศรษฐกิจ ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับโครงการรถคันแรกที่ปลดล็อกการถือครอง ทำให้สามารถเปลี่ยนรถได้ เริ่มคึกคักมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามมีปัจจัยลบที่ต้องเฝ้าจับตามอง โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะลุกลามไปทั่วโลก และแน่นอนว่าต้องกระทบกับบ้านเราไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และการเลือกตั้งจะเรียบร้อยดีหรือไม่

ส่วนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจมีผลทำให้เกิดการชะลอตัวในการตัดสินใจซื้อสินค้า แต่ทั้งนี้จะเป็นในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้การที่ตลาดมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวจะช่วยกระตุ้นความต้องการได้ในระดับหนึ่ง

ปิดท้ายที่ นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการ ผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจของไทยยังมีปัจจัยที่เอื้อให้โดยรวมยังดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจีดีพีที่ขยายตัวต่อเนื่อง การเร่งการก่อสร้างงานเมกะโปรเจ็กต์ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังเติบโตเป็นอันดับต้นๆ เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเติบโตต่อเนื่อง

นานาทัศนะบิ๊กค่ายรถยนต์

นายวิชิต ว่องวัฒนาการ

ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ ในปีนี้น่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่สูงเท่ากับปีที่แล้ว มองว่าอย่างมากที่สุดอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน หรือเติบโตขึ้น 3-4% เพราะทุกค่ายต่างต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของตัวเองไว้อย่างเต็มที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน