ลองของเรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์Art of Performance Tour : ยานยนต์

ลองของเรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์ได้ชื่อว่าเป็นค่ายรถระดับหรู ที่ขยันขันแข็งกับการจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ที่การันตีถึงชื่อชั้น และสมรรถนะ ที่ไม่ธรรมดา

ทำให้ชาญชัย มหัตคุณเอ็มดี บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายทั้ง 2 แบรนด์ ในบ้านเรา เติมเต็มความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

กิจกรรมล่าสุด “The Art of Performance Tour” จัดร่วมกับ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก มอบประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ ที่ไม่เหมือนใคร ให้กับแฟนพันธุ์แท้ จากัวร์ และแลนด์โรเวอร์ มาแล้วมากกว่า 600 สถานที่ ใน 46 ประเทศทั่วโลก

ลองของ‘เรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์’ ลองของ‘เรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์’

ในบ้านเราให้ผู้สื่อข่าวร่วมกิจกรรมนี้ไปพร้อมกับลูกค้าที่จ.ภูเก็ต จำลองพื้นที่สนามทดสอบตามรูปแบบโดยทีมงานจากประเทศอังกฤษ

แบ่งเป็นรูปแบบออฟโรด สำหรับแบรนด์แลนด์โรเวอร์ ซึ่งมีมาให้ทดสอบกันหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต,เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอินไฮบริด ใหม่ และเรนจ์ โรเวอร์ ปลั๊กอินไฮบริด พร้อมด้วยสนามทดสอบความแม่นยำในการเลือกช่องทางกับจากัวร์ เอฟไทร์

ก่อนที่จะเข้าไปลุยของจริง มีสถานีย่อยให้ทำกิจกรรมกันก่อน ด้วยการขับรถแลนด์โรเวอร์ ให้เข้าไปใกล้ลูกเทนนิสที่ห้อยไว้กับเสาเหล็กให้มากที่สุด โดยจะต้องให้กระจกมองข้างกระทบกับลูกเทนนิส มีทั้งทางตรง โค้งซ้ายโค้งขวา เพื่อสัมผัสถึงความแม่นยำของพวงมาลัย

ลองของ‘เรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์’

จากนั้นมาที่สถานีตรวจสอบรอบคัน เป็นกิจกรรมที่ต้องการสร้างวินัยก่อนขึ้นขับรถ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่เกิด ความผิดปกติ อันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ทั้งภายนอกภายใน ตัวรถ

ถึงเวลาของขาลุย เปิดประตูจะก้าวขึ้นเรนจ์ โรเวอร์ ปลั๊กอิน ไฮบริดเครื่อง 2.0 ลิตร Autobiography LWB ที่รูปร่างสูงใหญ่ ทำให้รู้สึกไม่ถนัดที่จะก้าวขึ้น แถมบันไดก็ไม่มี

เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ในรถบอกว่าใจเย็นๆ พร้อมทั้งกดปุ่มปรับช่วงล่างทำให้ความสูงของรถลดลง จนก้าวเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับได้ไม่ต่างจากซีดานชั้นดี

ลองของ‘เรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์’

เมื่อเข้าไปอยู่ในรถกดปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ รถจะปรับตัวยกขึ้นอัตโนมัติ พร้อมที่จะลุยทุกอุปสรรค

ภายในอลังการงานสร้าง ให้ทั้งความหรูหราจากวัสดุชั้นดี พร้อมด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่สั่งงานได้หลากหลายรูปแบบผ่านระบบสัมผัส หรือไม่ต้องสัมผัส เพียงแค่โบกมือผ่านเซ็นเซอร์ หลังคาซันรูฟก็จะทำงานเต็มรูปแบบในครั้งเดียว

อุปสรรคแรกเนินเอียง 45 องศา เริ่มเข้าไปช่วงเตี้ยๆ ก่อน พอเริ่มคุ้นชินไต่ความสูงขึ้นไป ตัวเลขแสดงโชว์ว่าขณะนั้นตัวรถเอียงอยู่ที่ 27 องศา ก็ถือว่าเอาเรื่องแล้ว แต่การควบคุมรถยังทำได้อย่างสบายมือ ไม่รอช้าไต่ขึ้นไปอีกนิด 32 องศา เอียงขนาดที่ผู้โดยสารด้านข้างแทบจะ เทมานั่งอยู่บนตัก สุดท้ายผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ลองของ‘เรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์’

ต่อกันที่การขับผ่านหลุมบ่อดักล้อแต่ละข้าง ไว้ เพื่อให้ได้รับรู้ถึงการทำงานของระบบ Traction Control ที่เข้ามาควบคุมการทำงานระบบส่งกำลังที่เหมาะสมไปยังล้อทุกล้อ ในอุปสรรคนี้จะมีล้อที่ลอยอยู่เหนือพื้นถนน 1 ล้อ แน่นอนว่ากำลังจะถูกถ่ายไปยัง 3 ล้อที่เหลือ เพื่อเพิ่มกำลังในการตะกุยพื้นให้มากขึ้น

สถานีสุดท้ายขึ้นทางลาดชัน อาจจะดูไม่ค่อยน่าหวาดหวั่นสักเท่าใด แต่ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีอยู่อย่างมหาศาล แค่แตะคันเร่งเบาๆ ตัวรถก็ไต่ขึ้นไปได้แบบไม่มีท้อ ไม่มีเหนื่อยให้ได้รู้สึก

ขากลับเจ้าหน้าที่หนุ่มอารมณ์ดี ให้ข่าวสด ยานยนต์ ไปนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง บอกเลยว่ารถคันนี้เหมาะกับผู้บริหารอย่างมาก เบาะแถวสองปรับเอนได้ค่อนข้างมาก แถมมีเบาะรองใต้ขา ทำให้อิริยาบถกึ่งเอนนอน บนโซฟาหนังชั้นดี พร้อมกันนี้ยังมีระบบนวดหลัง

สิ้นสุดการทดสอบแบบออฟโรด ไปต่อกันกับการขับเจ้าเสือร้ายสไตล์สปอร์ตจากัวร์ เอฟไทร์สีแดงเพลิง ผ่าน สมาร์ต โคน (Smart Cone) หรือกรวยยางที่ติดตั้งเทคโนโลยีไร้สาย สุ่มเส้นทางให้ผู้ขับขี่ต้องผ่านในช่องทางที่เป็นสีเขียว ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะเป็นช่องทางใดต่อไป นอกจากจะต้องเร็วแล้ว ยังต้องขับให้อยู่ตรงกลางสมาร์ต โคน ให้มากที่สุด

ลองของ‘เรนจ์ โรเวอร์’-‘จากัวร์’

ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องมีทั้งสายตาที่ไว มองหาช่องทางต่อไปให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งบางครั้งก็อยู่ด้านหลังของตัวเอง รวมถึงสมาธิเลือกใช้เส้นทางที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อเข้าไปให้อยู่ระหว่างกลางสมาร์ต โคน ให้มากที่สุด

กำลังของเครื่องยนต์ จากัวร์ เอฟไทร์ ที่มีม้าหนุ่มสุดคะนองอัดแน่นอยู่ 300 ตัว ประกอบกับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต พวงมาลัยคมกริบ เลี้ยวได้กระชับฉับไว ทำให้สามารถนำพาตัวรถไปยังสมาร์ต โคน ตัวต่อไปได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ ช่วยเพิ่มดีกรีความสนุกเร้าใจ จนรู้สึกว่าเวลาต่อรอบการทดสอบช่างสั้นเสียเหลือเกิน

ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมการทดสอบรถที่มอบประสบการณ์อันแตกต่าง พร้อมทั้งเพิ่มพูนทักษะการขับรถยนต์ให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง

คลิกอ่านข่่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน