‘ฮุนได เอช-วัน’ยังไงก็ใช่ ที่สุดรถครอบครัวยอดนิยม : ทดสอบ
‘ฮุนได เอช-วัน’ยังไงก็ใช่ – นานๆ ครั้งที่ผมจะมีโอกาสทดสอบรถครอบครัวขนาดใหญ่ เนื่องจากปกติขับเพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น
แต่ก็มีบ้างในบางโอกาสที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหลายๆ คน
ด้วยจังหวะนี้แหละที่มีโอกาสขอยืมรถใหญ่ๆ มาทดสอบกับ เขาบ้าง
ล่าสุดต้องเดินทางไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ กัน 6 คน และมีตามไปสมทบอีก 2 คน จึงไม่พลาดที่จะหยิบยืมรถครอบครัวยอดนิยม ‘ฮุนได เอช-วัน’ รุ่นปรับโฉมมาจัดหนักๆ สักทริป
รุ่นรองท็อป ‘ELITE’ มาอยู่ในกำมือ อีก 2 รุ่นที่เหลือคือ ‘TOURING’ และรุ่นท็อปคือ ‘DELUXE’
ฮุนได เอช-วัน เป็นรถไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับเปลี่ยนภายนอกให้ดูหรูหราขึ้น เด่นที่กระจังหน้าโครเมียมทรงใหม่ ไฟหน้าแบบ โปรเจ็กเตอร์เลนส์ พร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED และไฟตัด หมอกหน้า
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED ปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า มีกาบข้าง สปอยเลอร์ประตูท้ายรถ
ประตูผู้โดยสารแบบสไลด์ข้างทั้ง 2 ฝั่ง โดยรุ่นรองท็อปต้องเปิด-ปิดเอง ส่วนรุ่นท็อปเป็นไฟฟ้า เปิดจากรีโมต หรือจากที่นั่งคนขับได้ด้วย ถือว่าสะดวกสบายอย่างมาก
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เสาอากาศวิทยุแบบ Short-Type
เปิดประตูเข้าไปภายในกว้างขวางตามสไตล์รถครอบครัว เบาะนั่งหุ้มหนัง 4 แถว 11 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งข้างคนขับสามารถนั่งได้ 2 คน แต่หากมีแค่คนเดียว สามารถพับเบาะตรงกลางลง เพื่อใช้เป็นที่วางแก้วได้
ส่วนแถว 2 และ 3 เป็นแบบ 3 ที่นั่ง โดยที่นั่งตรงกลางสามารถพับพนักลงเป็นที่วางแก้ว หรือจะพับเก็บด้านข้างเพื่อเป็นทางเดินหรือวางของกับพื้นรถได้
ส่วนเบาะนั่งแถวสุดท้ายสามารถพับเบาะเพื่อใช้เป็นที่เก็บของได้
เบาะทุกแถวสามารถขยับขึ้นหน้า-ถอยหลังได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา
เบาะแถว 2 พิเศษไปอีกกับการหมุนได้ 180 องศา
พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง หน้าปัดแบบ Supervision Meters คอมพิวเตอร์แสดงข้อมูลการเดินทาง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมปุ่มควบคุมสำหรับ ผู้โดยสารด้านหลัง และปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแยกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เจาะช่องแอร์ให้กับผู้โดยสารทุกแถว
ความบันเทิงมีเครื่องเสียง วิทยุ / CD 1 แผ่น แบบ 2 DIN รองรับไฟล์ MP3 ระบบบลูทูธสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ ช่องต่อสำหรับ USB ช่องต่อสำหรับ HDMI พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
ขณะที่รุ่นท็อปได้วิทยุ CD / DVD แบบ 2 DIN รองรับไฟล์มัลติมีเดีย พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว แถมด้วยจอภาพ LCD ติดเพดานพับไฟฟ้า แบบ Full HD ขนาด 13.3 นิ้ว
กระจกไฟฟ้าสำหรับประตูหน้า กระจก Flush Glass ที่ประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเฉพาะกระจกหากต้องการสื่อสารกับนอกรถโดยไม่จำเป็นต้องเปิดประตูทั้งบาน
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอนสายๆ วันศุกร์รถราไม่เยอะ มากนัก มาติดๆ ขัดๆ หน่อยตอนเข้าเส้นพระรามที่ 2 มุ่งหน้าลงใต้
อัตราเร่งของเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ออกตัวได้พอประมาณ แต่เมื่อถึงความเร็วกลางและปลายมาค่อนข้างเร็ว
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Shift ทำงานได้ ราบเรียบ
ความนุ่มนวลถือว่าดีทีเดียวโดยเฉพาะการนั่งไปหลายๆ คน การเข้าโค้งหรือผ่านคอสะพานหากไม่เร็วเกินไปก็ไม่ถึงกับหัวสั่น หัวคลอน เสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารไม่มากนัก
ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 110-120 ก.ม./ชั่วโมง แต่ก็มีจังหวะหนึ่งที่คนในทริปลืมของ จึงต้องย้อนกลับไป ซึ่งนั่งกันแค่ 2 คน เลยไม่รอท่าซัดกันหนักๆ กว่า 160 ก.ม./ชั่วโมง
ความเร็วขนาดนั้นตัวรถยังเสถียร พวงมาลัยแบบแร็กแอนด์ พีเนียน มั่นใจได้
ส่วนระบบเซฟตี้อื่นๆ ถือว่ามีมาให้ค่อนข้างครบ ทั้งระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS สัญญาณเตือนกะระยะขณะถอยหลัง
แต่หากเป็นรุ่นท็อปจะยิ่งปลอดภัยเพราะมีกล้องมองภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ
อีกจุดที่ผมรู้สึกว่าอยากได้รุ่นท็อปเหลือเกิน เพราะผู้โดยสารแถว 2 เป็นคนสูงอายุนั่งทำให้ไม่มีแรงเปิด-ปิดประตูบานเลื่อน ผมในฐานะคนขับต้องกระโดดขึ้นกระโดดลงช่วยเปิด-ปิด
ในระหว่างเดินทางต้องแวะหลายจุด ได้เห็นความเด่นอีกอย่างคือความสูงของตัวรถที่ค่อนข้างมาก บวกกับการพับเบาะตรงกลางได้ ทำให้ผู้โดยสารแถว 3 เดินเบียดตัวมายังแถว 2 เพื่อลงรถโดยไม่ต้องปรับพับเบาะแถว 2
‘ฮุนได เอช-วัน’ มี 3 รุ่นย่อยราคา 1,329,000-1,729,000 บาท โดยรุ่นที่ได้มาทดสอบเป็นรุ่นกลางราคา 1,529,000 บาท
เมื่อเทียบกับรุ่นท็อปถูกกว่า 2 แสนบาท แต่หากดูเรื่องความสะดวกสบายและออปชั่นอื่นๆ
รุ่นท็อปน่าสนมากกว่า
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง รถครอบครัว 11 ที่นั่ง
เครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว
กำลังสูงสุด 175 แรงม้า/3,600 รอบฯ
แรงบิด 441 นิวตัน-เมตร/2,000-2,250 รอบฯ
ระบบรองรับ(หน้า) แม็กเฟอร์สันสตรัต
ระบบรองรับ(หลัง) 5-Link Rigid Axle/คอยล์สปริง
มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,920×5,125×1,925 ม.ม.
สันติ จิรพรพนิต