ยังเป็นตลาดที่หอมหวานเหลือเกินสำหรับ‘บิ๊กไบก์’หรือรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ที่ค่ายดังๆ ทั่วโลกแห่แหนกันเข้ามาแย่งชิงตลาดในเมืองไทย เพราะยอดการเติบโตระดับ 2 หลักต่อเนื่องหลายปี ไม่ว่าเศรษบหกิจจะทรงหรือซบขนาดไหน แต่บิ๊กไบก์ยังขายได้แรงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าเจ้าพ่อสองล้อเมืองไทย‘เอพี.ฮอนด้า’ ส่งรถบิ๊กไบก์หลายหลายรุ่นสู้ศึกกับค่ายญี่ปุ่นด้วยกัน รวมไปถึงฝั่งยุโรป
ล่าสุดแนะนำบิ๊กไบก์รุ่นใหญ่ยักษ์‘CBR1000RR’ ซึ่งเป็นรถนำเข้า เนื่องจากโรงงานในเมืองไทยจะผลิตรถที่ต่ำกว่า 650 ซี.ซี. มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ‘All New Honda CBR1000RR’และ‘All New Honda CBR1000RR SP’
โดย‘CBR1000RR SP’ เป็นรุ่นระดับท็อปที่มีเทคโนโลยีระดับรถที่ใช้แข่งขัน เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1000 ซีซี. ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาด้วยอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 และสามารถทำกำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ที่ 13,000 รอบต่อนาที เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น TBW & APS เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ที่ทำงานประสานกับเซ็นเซอร์ APS ที่ฝังอยู่ใน Handlebar grip เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบสนองกับแรงบิดของผู้ขับขี่ได้อย่างดีที่สุด
มีระบบ Power Selector ระบบการตั้งค่าการขับขี่ โดยผู้ขับขี่เลือกตั้งค่ากำลังจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับแรงบิดของคันเร่ง HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบควบคุมแรงบิดแบบเลือกได้ของฮอนด้า เพื่อตรวจจับความเร็วล้อด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้การควบคุมรถได้อย่างราบรื่น และ Engine Brake Control ซึ่งสามารถปรับเลือกได้ตามโหมดขับขี่ที่ที่ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐานหรือผู้ใช้สามารถตั้งค่าเองได้ตามต้องการ
ส่วนรูปร่างหน้าตาสปอร์ตสุดๆ ลงตัวด้วยชุดไฟหน้า ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED ท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ที่ทำจากไทเทเนียมทำให้มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ CBR1000RR มีสองสีให้เลือก ได้แก่ สีแดง (Victory Red) และ สีดำ (Mat Ballistic Black Metallic)
ส่วนรุ่น All New CBR1000RR SP มาพร้อมชุดสีดีไซน์ใหม่แบบ Tri-color (Victory Red) ถังน้ำมันทำขึ้นจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียม ทำให้รถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นปัจจุบันถึง 17 กิโลกรัม อัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Quick shifter ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัทช์ ระบบโช๊ค Ohlins ทั้งหน้า-หลัง ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า และระบบเบรคคู่หน้าเป็นคาลิปเปอร์เบรค Monoblock 4 POT จาก Brembo เป็นต้น
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ระบุว่าความนิยมรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเภทรถสปอร์ตที่มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 15% เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับกลุ่ม รถประเภทอื่น
สุชาติ อรุณแสงโรจน์
“กลุ่มประเภทรถสปอร์ตของฮอนด้าก็ต้องเป็นรถในตระกูล CBR ที่มีชื่อเสียงในด้านสมรรถนะและการควบคุมรถ ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะ CBR1000 RR มีจุดกำเนิดตั้งแต่ปี 1992 และมีแนวคิดการพัฒนาคือการนำเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง และการควบคุมการขับขี่ที่ง่าย เข้ามาไว้ด้วยกัน”นายสุชาติ กล่าว
สำหรับ All New Honda CBR1000RR พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้เป็นรถซูเปอร์สปอร์ตที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่ท้องถนนได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง น้ำหนักที่เบาลง และสามารถควบคุมได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ประกอบกับสีสันและดีไซน์ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์เรซซิ่งไบก์
รายละเอียดแบบเจาะลึกทั้งหมดและราคา จะไปเปิดกันในงาน‘มอเตอร์โชว์ 2017’ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย.นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ส่วนราคา‘CBR1000RR’รุ่นปี 2016 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ CBR1000RR ราคา 820,000 บาท, CBR1000RR Tri-color ราคา 829,000 บาท และTri-color Repsol รุ่นท็อปตัวแต่ง ราคา 843,000 บาท
