ลองของ‘MG ZS EV’พลังไฟฟ้า-แรงหายห่วง
คอลัมน์ ทดสอบ
ลองของ‘MG ZS EV’พลังไฟฟ้า-แรงหายห่วง – ในที่สุดบ้านเราก็เข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง พลันที่ค่ายรถยนต์สัญชาติแดนผู้ดีอย่าง MG เปิดตัว ‘MG ZS EV’ ครอสโอเวอร์ ไฟฟ้า 100% เข้าทำตลาดบ้านเราเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
แว่วมาจากผู้บริหารหนุ่ม ‘พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์’ รองกรรมการผู้จัดการ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ว่าวันนี้กวาดยอดจองไปแล้ว 1,500 คัน
เพื่อเติมเต็มความมั่นใจพร้อมทั้งให้รับรู้สมรรถนะของเจ้า MG ZS EV ทีมงานเอ็มจี จัดทริปเล็กๆ ให้ผู้สื่อข่าวสายยานยนต์ทดสอบบนเส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา
แต่ละคันไปกัน 3 คน ให้น้องที่ร่วมคันแบ่งกันขับขาไป ส่วนขากลับขอซัดรวดถึงกรุงเทพฯ เลย
นัดเจอกันที่สนามทดสอบสมรรถนะ MG Driving Experience Centre ถ.ศรีนครินทร์ ย่านซีคอนสแควร์ กันแต่เช้า แนะนำตัวรถ และอุปกรณ์ต่างๆ กันเป็นที่รู้จักในเบื้องต้น
จากนั้นให้ทดลองขับในสนาม แบ่งเป็นการขับทางตรงเพื่อดูอัตราเร่งตีนต้น แน่นอนว่าด้วยเพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องรอรอบ ทำให้กดคันเร่งไปเท่าไหร่ ความเร็วก็มาเท่านั้นในทันที
พร้อมทดลองระบบหน่วงตัวรถ ที่นอกจากช่วยชะลอความเร็วแล้ว ยังเป็นการนำพลังงานจากแรงเฉื่อยแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอรี่อีกด้วย สามารถตั้งระดับความหน่วงได้ 3 ระดับ
ต่อกันด้วยการเปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับทางตรงจนถึงประมาณ 80 ก.ม./ช.ม.
แล้วให้หักหลบกรวยยาง ตัวรถมีอาการท้ายปัดอยู่ เล็กน้อย แต่สามารถกลับมาตั้งลำเดินหน้าไปต่อได้ในแทบจะทันที
พร้อมออกเดินทางรีบเดินไปจองเบาะนั่งด้านหลัง เบาะนั่งขนาดใหญ่ความนุ่มนวลที่มีมาให้อย่างเต็มที่ แต่ตัวเบาะสั้นไปสักหน่อย ทำให้รองรับต้นขาได้ไม่เต็มที่ พื้นที่วางขามีมาพอให้ได้ยืดขาคลายความเมื่อยล้า
ช่วงระหว่างในเมืองน้องนักข่าวต้องลัดเลาะหาทางไป ด้วยเพราะการจราจรที่หนาแน่นอยู่พอควร จังหวะโยกซ้าย-ขวา รับรู้ได้ถึงแรงเหวี่ยงอยู่พอสมควรแต่ไม่ถึงกับตัวโยน
ขึ้นมอเตอร์เวย์เริ่มทำความเร็วตัวรถไปได้อย่างราบรื่น ช่วงผ่านหลุมบ่อคอสะพาน ช่วงล่างออกจะนุ่มกว่า MG ZS รุ่นเครื่องยนต์เสียด้วยซ้ำ
โดยช่วงล่างด้านหน้าแบบ แม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีม
จุดหมายปลายทางในครั้งนี้ อยู่ที่ร้าน‘7- Eleven ธาราพัทยา’ ด้วยเพราะนอกจากจะเป็นร้านต้นแบบที่เน้นทั้งเรื่องความประหยัด และรักษ์โลกแล้ว ยังติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าของค่าย EA ด้วย
การชาร์จไฟฟ้าทำได้ง่ายๆ ด้วยการดึงโลโก้ด้านหน้าออกแล้วดันขึ้น ด้านในจะมีเต้าเสียบซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าตัวควิกชาร์จมีข้อดีคือใช้เวลาน้อย เพียงแค่ประมาณครึ่งชั่วโมง จากแบตเตอรี่ 0% ก็ได้ประจุไฟฟ้าเข้าไปในแบตเตอรี่ 80%
ส่วนถ้าชาร์จจากชุดโฮม ชาร์จเจอร์ ที่ MG แถมให้กับลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนก.ย.ทุกคัน ใช้เวลาชาร์จจาก 0% จนเต็ม 100% ประมาณ 6.30 ชั่วโมง เทียบแล้วไม่ต่างจากชาร์จสมาร์ตโฟนที่ใช้อยู่ทุกวันแต่อย่างใด
ได้เวลาขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับ สัมผัสเบาะนั่งหุ้มหนังหนาจนรู้สึกเหมือนตัวลอย ต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นชินอยู่พักใหญ่ เมื่อคุ้นแล้วรับรู้ถึงข้อดีคือความนุ่มรองรับสรีระได้เต็มที่
เลือกโหมดการขับขี่ ‘นอร์มอล’ แทน ‘สปอร์ต’ เพื่อต้องการประหยัดพลังงาน ส่วนโหมดอีโคเหมาะใช้ในเมืองที่รถติดมากกว่า
ถึงจะเป็นโหมดนอร์มอลแต่ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว เร่งแซง หรือทำความเร็วสูง เรียกมาได้ดั่งใจ วันนั้นทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่กว่า 160 ก.ม.ต่อช.ม. ซึ่งแป้นคันเร่งยังมีช่องว่างให้กดได้อีกเล็กน้อย อารมณ์การขับขี่ไม่ต่างจาก MG ZS รุ่นเครื่องยนต์ ช่วงล่างโยนตัวอยู่บ้าง บนย่านความเร็วสูง ประกอบกับการที่ทีมวิศวกร MG เซ็ตให้ ZS EV มีความนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งต้องแลกกับความหนึบแน่นเป็นธรรมดา
สุดทางมอเตอร์เวย์ เลี้ยวเข้าถ.ศรีนครินทร์ ช่วงบ่ายคล้อยรถติดอยู่พอสมควร เหลือบดูพลังงานไฟฟ้าที่เหลืออยู่แค่ตุ่มเดียว เริ่มสงสัยว่าจะหมดไฟก่อนถึงจุดหมายหรือไม่
แต่ทีมงาน MG ที่นั่งมาด้วยแจ้งว่า รถไฟฟ้า 100% คันนี้ไม่กลัวรถติด เพราะระบบไฟฟ้าทั้งคันมาจากแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ที่แยกต่างหาก ไม่ได้มาดึงกำลังจากแบตเตอรี่ที่ใช้ขับเคลื่อน
สุดท้ายถึงปลายทางวิ่งมาระยะทาง 134 ก.ม. ความเร็วเฉลี่ย 81 ก.ม.ต่อช.ม. ไฟฟ้าที่เหลืออยู่สามารถวิ่งได้อีก 55 ก.ม.
‘MG ZS EV’ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เด่นทีเดียว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทย
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง อเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง
มอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor
แบตเตอรี่ Lithium-ion
ความจุ 44.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร
มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,809×4,314×1,624 มม.
ราคา 1,190,000 บาท
