เปิดตัว‘บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่’ 3 รุ่นย่อย ‘520d M Sport’-‘530e Elite’ และ‘530e M Sport’ พร้อม 2 ขุมพลัง‘ดีเซล’และ‘เบนซินไฮบริด’

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ พลิกโฉมยนตรกรรมหรูด้วยดีไซน์ใหม่พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยคอนเซ็ปต์‘Change the way you lead. Lead the way you change’ เน้นย้ำถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่า

BMW 520d M Sport

ดีไซน์ภายนอกกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% ในรูปทรงแปดเหลี่ยมแบบใหม่ ยาวลงมาบรรจบกับกันชนหน้า ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ส่วนบนของซี่ในกระจังหน้ายื่นออกมาเล็กน้อย สอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED รูปตัว L ในดีไซน์เรียวยาว ช่องดักอากาศแนวตั้งทั้งสองข้างบนกันชนหน้าเสริมความโดดเด่นให้แก่การเล่นเส้นสายของดีไซน์แบบใหม่

ไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L รับกับไฟหน้า โฉบเฉี่ยวด้วยกรอบสีดำ สร้างความสะดุดตาบนท้องถนน โดยทั้งไฟท้ายและไฟเบรกได้รับการออกแบบมาให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว เสริมลุคสปอร์ตด้วยท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ท้ายรถทั้งสองด้านซึ่งรวมเป็นส่วนหนึ่งของกันชนท้ายไว้ได้อย่างลงตัว

BMW 530e M Sport

มาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น 520d M Sport และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Y-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้ว สำหรับรุ่น 530e M Sport ขณะที่รุ่น 530e Elite มาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke

มิติตัวรถที่ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้า 27 มิลลิเมตร ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่มีความยาว 4,963 มิลลิเมตร แต่ยังคงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ไว้ได้อย่างเหนือชั้น ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน (Cd) เพียง 0.23

BMW 520d M Sport

BMW 530e M Sport

ห้องโดยสารผสานทั้งความสง่างามและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นสำคัญ เบาะหนังแท้ Dakota ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียมและงานฝีมือสุดประณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ปุ่มบริเวณคอนโซลกลางมาในสีดำเงาเพื่อความหรูหรา ตัดกับพวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น

รุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่ยม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียม

จอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด BMW Operating System 7 ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการขอมากยิ่งขึ้น

ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถ สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) โดยรองรับผู้ใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน

ผู้ขับขี่สามารถเลือกควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์ ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ระบบการเชื่อมต่อ และระบบนำทางได้ผ่านทางจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบ iDrive ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW gesture control

บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 – 100 ก.ม./ชั่วโมง 7.5 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 235 ก.ม./ชั่วโมง

ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite และ 530e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร

สามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบ XtraBoost ซึ่งปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเมื่อขับขี่ในโหมด SPORT จึงสามารถโลดแล่นจาก 0 – 100 กิโลเมตรได้ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 ก.ม./ชั่วโมง

ยังขับขี่แบบไร้มลพิษด้วยมอเตอร์เป็นระยะทาง 52 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12.0 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง

บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ช่วงล่างแบบ Adaptive ขณะที่รุ่น 520d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ M Sport

ช่วงล่างมาพร้อมเพลาหน้าแบบปีกนกคู่และเพลาหลังแบบ five-link นุ่มสบายทั้งในชีวิตประจำวันและขณะเดินทางไกล รวมถึงในการขับขี่ที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง มีระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ที่มีระยะกว้างกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งล้อหลังมาช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้ง และยังช่วยเสริมความคล่องตัวขณะเข้าจอด

เทคโนโลยีช่วยเหลือ อาทิ ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Active cruise control with Stop & Go function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e Elite มีระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function)

นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน, ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง, ระบบ Active Protection และเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง

บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ยังมาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ขณะถอยจอดและจอดขนาน

บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport ราคา 3,539,000 บาท

บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite ราคา 2,999,000 บาท

และบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ราคา 3,739,000 บาท

ทั้งสามรุ่นมาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ซึ่งครอบคลุมการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน