เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำสุดยอด Urban X-Over (เออเบิน ครอสโอเวอร์) ระดับหรู‘เลกซัส NX’ รุ่นปรับโฉมภายใต้แนวคิด”The urba NXplorer” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ ที่มีวิถีชีวิตไม่ซ้ำใคร ชอบเดินทางออกไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนำมากำหนดและสร้างรูปแบบของการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง

Lexus NX รุ่นปรับโฉมใหม่สะท้อนความโดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมสุนทรียภาพในการขับขี่กับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เต็มสมรรถนะ เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการขับขี่และเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ Lexus Safety System Plus (LSS+) ผสานกับการออกแบบภายในที่สะท้อนถึงความตั้งใจในการผลิตจากช่างฝีมือระดับสูงของญี่ปุ่น (Takumi Craftsmanship) ซึ่งได้รับการยอมรับในด้านความปราณีต ทำให้ เลกซัส NX เป็นรถยนต์ประกอบสำเร็จจากประเทศญี่ปุ่นที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์

โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่แบบ LED 3-Eye Projector-Type เรียงตัวในลักษณะสามเหลี่ยมซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก Sport Coupe อย่าง Lexus LC มาพร้อมกับไฟส่องสว่างในเวลากลางวันและไฟเลี้ยวใหม่แบบ Sequential Turning Lamps ที่แสงสัญญาณไฟเลี้ยวจะกระพริบจากด้านในเลื่อนสู่ด้านนอกไฟหน้า

ชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ LED Rear Combinations Lamps… ไฟท้าย LED รูปตัว L ถูกขยายให้ยาวขึ้นรับกับเส้นสายท้ายตัวรถและช่วยเพิ่มความชัดเจนในการมองเห็นแก่ผู้ร่วมทาง สะดวกยิ่งขึ้นด้วยประตูหลังเปิดปิดไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่มาพร้อมกับระบบ Kick Sensor กันชนด้านหลังให้มีเส้นสายที่รับกันกับลำตัวรถ และสำหรับรุ่น NX 300 ที่มีท่อไอเสียแบบคู่สะท้อนความสปอร์ตอย่างแตกต่าง ล้ออลูมินัมอัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่

เบาะนั่งและงานหนังทุกชิ้นถูกตัดเย็บมาด้วยทักษะชั้นครูของช่างฝีมือระดับสูงของญี่ปุ่น (Takumi Craftsmanship) ทำให้งานเย็บทุกฝีเข็มออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ แข็งแรง ทนต่อความร้อนสูง สำหรับ เลกซัส NX รุ่นปรับโฉมได้เสนอทางเลือกใหม่ สี Ochre (สีน้ำตาลอ่อน) ในเกรด Premium และ Grand Luxury และสี Flare Red ในเกรด F SPORT

จอแสดงผลข้อมูล Electro Multi Vision (EMV) ขนาดใหญ่ 10.3 นิ้ว สวยหรู แสดงข้อมูลการขับขี่อย่างเด่นชัด ระบบปฏิบัติการแบบสัมผัสอันล้ำหน้า Remote Touch Interface ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการสั่งการระบบนำทางและระบบความบันเทิงได้อย่างง่ายดายเพียงนิ้วสัมผัส

Drive Mode Select ทำให้สามารถเลือกการขับขี่ทั้งโหมด Normal, Eco, Sport S และสำหรับเกรด F SPORT ใเร้าใจกับการขับขี่เพิ่มเติมในรูปแบบ Sport S+ และโหมดใหม่ Customize ซึ่งจะมาพร้อมระบบรองรับแปรผัน AVS ที่จะช่วยปรับระดับความหนืดของโช๊คอัพให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติตลอดเวลาได้มากถึง 650 ระดับ เพิ่มความมั่นใจในการทรงตัวบนทุกย่านความเร็ว

ระบบเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฮบริด 2.5 ลิตร ในรุ่น NX300h เต็มสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ Lexus Hybrid Drive อัจฉริยะ และขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ในรุ่น NX300 ให้สมรรถนะแรงเต็มพลังในทุกระดับความเร็ว

ระบบความปลอดภัย Pre-crash Safety System (PCS) เมื่อสัญญาณเรดาร์ซึ่งทำงานพร้อมกับกล้อง ตรวจพบความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการปะทะขึ้นกับสิ่งกีดขวางด้านหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนคนขับและสั่งการให้ระบบช่วยเบรกทำงานโดยอัตโนมัติ

Adaptive Radar Cruise Control ระบบจะช่วยรักษาระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้าอย่างเหมาะสม โดยระบบจะลดความเร็วให้สอดคล้องกับความเร็วของรถคันหน้าในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถคันหน้ามีการชะลอความเร็วลง โดยความเร็วจะเพิ่มขึ้นกลับคืนสู่ค่าเดิมที่ตั้งไว้เมื่อรถคันหน้ามีการเร่งความเร็วขึ้น

Lane Keeping Assist (LKA) ระบบจะทำการส่งสัญญาณสั่นเตือนที่พวงมาลัย พร้อมกับแจ้งเตือนบนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถยนต์มีการขับข้ามเลนโดยไม่มีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว

Adaptive High Beam System (AHS) ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอย่างอัจฉริยะ เมื่อกล้องหน้ารถตรวจพบว่ามีรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหน้าหรือวิ่งสวนมา เพื่อช่วยให้ลดการรบกวนรถคันอื่น แผงควบคุม LED 11 ชิ้นที่ทำงานแยกอิสระ จะทำหน้าที่ปรับไฟจากไฟสูงเป็นไฟต่ำอัตโนมัติทันทีสำหรับดวงที่ส่งผลกระทบต่อรถคันอื่น และเมื่อรถร่วมทางคันดังกล่าวออกพ้นจากระยะ ไฟดวงดังกล่าวจะกลับมาเป็นไฟสูงอีกครั้งโดยอัตโนมัติ


ราคาจำหน่ายรุ่น‘NX300’

รุ่น F SPORT แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4,450,000 บาท

รุ่น Grand Luxury 3,440,000 บาท

ราคาจำหน่ายรุ่น‘NX300h’

รุ่น F SPORT 4,050,000 บาท

รุ่น Premium 3,550,000 บาท

รุ่น Grand Luxury 3,140,000 บาท

รุ่น Luxury 2,930,000 บาท

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน