ประทับใจกับการทดสอบ โตโยต้า สายพันธุ์รถแข่ง GR Sport ไปก่อนหน้านี้ 2 รุ่น
ทั้ง โตโยต้า รีโว่ GR Sport เป็นครั้งแรกที่ขับรถปิกอัพ บนความเร็ว 200 ก.ม.ต่อช.ม. ชนิดไม่มีหวิว
และเจ้า โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ GR Sport กับการเข้าโค้งได้อย่างกระชับฉับไว

ล่าสุดค่ายโตโยต้าเปิดตัว โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส GR Sport เครื่องยนต์ เบนซิน พร้อมด้วย HEV GR Sport เทคโนโลยีไฮบริด
มีหรือที่ “ข่าวสด ยานยนต์” จะพลาด ว่าแล้วยกหูหา ‘แขไข’ สุชญา เชียรแกล้วกล้า ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์สาวอารมณ์ดี
ได้รับคำตอบให้เข้าไปรับได้ในบัดดล ที่ศูนย์โตโยต้า ไดรวิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์พาร์ค สนามทดสอบรถยนต์โตโยต้าย่านถ.บางนา-ตราด ก.ม.3
กดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ที่มีโลโก้ GR Sport เสียงเงียบกริบ แทบไม่แน่ใจว่าเครื่องยนต์ติดแล้ว ดูที่เรือนไมล์ มีคำว่า Ready ที่แสดงขึ้นมา บ่งบอกว่าพร้อมออกเดินทาง
แตะคันเร่งเบาๆ ตัวรถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวล เนียนเรียบ ตามสไตล์รถไฮบริด ที่ความเร็วต่ำใช้การขับเคลื่อนจากมอเตอร์
การจราจรช่วงสายเริ่มบางตา จะมีก็แต่ พี่ใหญ่ที่จำนวนมากหน่อย อาศัยความคล่องตัว ผนวกกับกำลังของทั้งเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร มีมาให้ 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร
และจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 53 กิโลวัตต์ แรงบิด 163 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT การออกตัว หรือเร่งแซงซ้าย-ขวา ทำได้อย่างสบายมือ

ขึ้นทางด่วนรถเริ่มติด เหลือบเห็นปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ลองใช้โหม ECO (อีโค่) เน้นความประหยัด แต่ยังคงประสิทธิภาพการขับขี่
กว่าจะหลุดการจราจรที่หนาแน่นไปได้ ทำเอาต้อง ปาดเหงื่อไปหลายรอบ ดูอัตราสิ้นเปลืองที่วิ่งมาได้ร่วมๆ 100 ก.ม. อยู่ที่ 21.3 ก.ม.ต่อลิตรเท่านั้น
ขับเลย จ.สิงห์บุรี สายเอเชียเริ่มว่าง พอให้ทำความเร็วปลายได้ ไม่รอช้า เข็มไมล์ไต่ระดับขึ้นไป 110-120-130 ก.ม.ต่อช.ม. ไม่มีเหนื่อย ไม่มีท้อ
วันนั้นจัดไปที่ร่วม 180 ก.ม.ต่อช.ม. แบบไม่มีอาการหวิวให้ได้รู้สึก จะมีก็เพียงแค่เสียงของเครื่องยนต์และมอเตอร์ ที่ดังเข้ามาใน ห้องโดยสารมากขึ้นจนรู้สึกได้
จากที่จับสังเกตเรื่องเสียง กว่าจะมีเล็ดลอดเข้าได้ต้องมีร่วม 140 ก.ม.ต่อช.ม. ก่อนหน้านี้ค่อนข้างเงียบ แทบไม่เชื่อว่าทำความเร็วอยู่ที่ 110-120 ก.ม.ต่อช.ม.
ผ่านจ.แพร่ มุ่งหน้าจ.น่าน เป็นทางขึ้นเขา และมีโค้งต่อเนื่อง เลือกใช้งานโหมดเพาเวอร์ (Power) เพื่อเรียกกำลังมาใช้งานให้ได้ดั่งใจ
และยังมีเกียร์ตำแหน่ง B ช่วยเรื่องแรงฉุด ใช้สำหรับขึ้นเนิน หรือลงทางลาดชัน จะได้ไม่ต้องแตะเบรกบ่อยๆ อันเป็นสาเหตุของอาการเบรกแตก

ช่วงล่างหน้าแม็กเฟอร์สัน สตรัต หลัง อิสระปีกนกคู่ พร้อมทั้งปรับจูนโช้กอัพ กับ คอยล์สปริง ในแบบฉบับ GR Sport ฝีมือทีมแข่งกาซู เรซซิ่ง ที่ไปกวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก
ให้ความมั่นคงไม่สั่นไหว ไม่ว่าจะบนย่านความเร็วสูง เข้าโค้งหนัก หรือชู้ตเพื่อขึ้นเนินชัน ควบคุมรถได้ดั่งใจ
แม้ช่วงล่างจะหนึบแน่น ราวกับรถแข่ง แต่ยังคงให้ความนุ่มนวลตามแบบฉบับรถซีดาน ผ่านคอสะพานบนความเร็วสูง ไม่มีกระเด้งกระดอนแม้แต่น้อย

ดีไซน์ภายนอก จัดชุดแต่ง GR Sport ให้สมกับเป็นสายพันธุ์รถแข่ง เริ่มตั้งแต่กระจังหน้า และกันชนหน้าใหม่ GR Sport มาพร้อมไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่
กระจกมองข้างสีดำ กางออก พับเก็บ อัตโนมัติ เมื่อเปิด-ปิดรถ สเกิร์ตข้างและ สเกิร์ตหลัง GR Sport ล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว GR Sport สีดำ ดุดัน เข้มขรึม

ภายใน เบาะหนังคู่หน้าแถบแดงดีไซน์สปอร์ต หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ที่กระจกหน้ารถ ม่านบังแดดที่กระจกหลังแบบแมน่วล ผู้โดยสารตอนหลังต้องดึงขึ้น ใช้งานเอง
อัตราสิ้นเปลือง ถังแรกวิ่งทางเรียบเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงรถติดในเมือง ได้อยู่ 20.9 ก.ม.ต่อลิตร หมดถัง 702 ก.ม.
ส่วนรอบขึ้นเขา ทำความเร็วทางไกล อยู่ที่ 17.1 ก.ม.ต่อลิตร หมดถังทำระยะไปได้ร่วม 600 ก.ม.
ถือว่าประหยัดได้ใจเลยทีเดียว
ค่าตัวของเจ้าโตโยต้า อัลติส HEV GR Sport อยู่ที่ 1.114 ล้านบาท แวะไปทดลองขับได้ที่โชว์รูมโตโยต้า ทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน