ฟอร์ด ส่งรถรุ่นพิเศษในงาน“มอเตอร์โชว์ 2023” นำโดย“เอเวอเรสต์ ไวลด์แทรค” และกระบะ“เรนเจอร์ สตอร์มแทรค” โชว์จุดเด่นภาพลักษณ์ใหม่ เทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายขั้นสุด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ไวลด์แทรค รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 โหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ได้แก่ Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิว (Best in Class)

ภายนอกรูปลักษณ์แบบเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ทั้งกระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไวลด์แทรค พร้อมตัวอักษร WILDTRAK สีดำบนฝากระโปรงหน้า ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (First in Class, Best in Class) ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูปตัว C ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบแอลอีดี ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี

ห้องโดยสารตกแต่งสีดำให้มีความดุดันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ไวลด์แทรค เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำพร้อมเดินด้ายสีส้ม และโลโก้ซิกเนเจอร์Wildtrak ที่เบาะคู่หน้า หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว สั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ลำโพง 8 ตำแหน่ง ระบบ FordPass Connect ช่องต่อ USB 4 จุด

เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะแถวที่ 3 พับได้แบบไฟฟ้า แท่นชาร์จไร้สาย ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร หลังคา Panoramic Moonroof

อุปกรณ์ความปลอดภัย ถุงลมนิรภัย 7 จุด สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) พร้อม Electric Brake Booster ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control)


อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะครบครัน อาทิ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Active Park Assist System), ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)

ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System), ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน, ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS with cross-traffic alert), กล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist) (First in Class) ฯลฯ

ส่วนฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ สตอร์มแทรค เด่นด้วยไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟวิ่งกลางวัน ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบแอลอีดี ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ บันไดข้างและบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) พื้นปูกระบะท้าย พร้อมช่องต่อไฟ 12V และ 230V (400W) ฝาท้ายแบบผ่อนแรง ล้ออัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55 R20

ภายในเบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า สามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง เกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter (First-in-class)แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร

หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบ FordPass Connect ช่องต่อ USB 4 จุด ลำโพง 6 ทิศทาง ช่องต่อไฟ 12V พร้อมช่องต่อไฟ 230V (400W)

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร โช้คอัพคู่หน้าและหลังแบบโมโนทิวบ์

เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง ได้แก่ ดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 4×4) ระบบเลือกโหมดการขับขี่ 6 โหมด แบบหมุน (เฉพาะรุ่น 4×4) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Park Assist) (First in Class) ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS? with cross-traffic alert) กล้องมองรอบคัน 360 องศา ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ ฯลฯ

สุดท้ายกับฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่น XLS รถกระบะในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ มีให้เลือกทั้งแบบ 4 ประตู และแบบตอนครึ่ง ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตันเมตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน