แม้จะคลาดกันไปกับทริปทดสอบ ฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก ใหม่ เก๋งเล็กแบบ 5 ประตูที่จัดกันไปก่อนหน้านี้ แต่ถึงกระนั้นผู้บริหารสาว ‘คุณต้อม’ ศิริพร ศรีสุข ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมการตลาด ฮอนด้า ออโตโมบิล ไม่รอช้า จัดรถให้ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้ทดสอบกันโดยพลัน

หลาก&หลายรถยนต์ - ซัดเต็มข้อ‘ฮอนด้าซิตี้เทอร์โบ’ใหม่ กดเกือบทะลุ180ก.ม./ช.ม.ยังมีให้ไปต่อได้อีก

นัดรับรถที่ศูนย์ตรวจสอบรถใหม่ก่อนส่งมอบ ย่านบางชัน ได้รุ่น SV หรือตัวรองท็อป เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร วีเทค เทอร์โบ สีเทาโซนิค เทาอมฟ้า ทำให้ตัวรถดูสว่าง และเท่ขึ้นอย่างมาก

ดีไซน์ภายนอกกันชนหน้า กันชนหลังดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับ พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว เสาอากาศครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน

หลาก&หลายรถยนต์ - ซัดเต็มข้อ‘ฮอนด้าซิตี้เทอร์โบ’ใหม่ กดเกือบทะลุ180ก.ม./ช.ม.ยังมีให้ไปต่อได้อีก

ภายในเน้นสีดำ วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา คอนโซลหน้าสีดำเปียโน แบล็ก มือจับประตูด้านในตกแต่งโครเมียม

และที่ค่ายฮอนด้าภูมิใจอย่างมากกับเจ้า ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก คือ การพับปรับเบาะแถวสองแบบ 60:40 ที่ทำได้ 4 โหมด ตามลักษณะการใช้งาน Utility Mode ปรับพับเบาะแถวสองทั้งสองด้าน พับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

Long Mode ปรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังตรงกัน สำหรับสัมภาระแนวยาว เช่น เซิร์ฟบอร์ด หรือท่อน้ำประปา Tall Mode ปรับดึงเบาะด้านหลังขึ้น ทำให้ได้พื้นที่เก็บสัมภาระแนวสูง

และ Refresh Mode เพื่อการพักผ่อน ดึงหมอนรองศีรษะฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าออก ดึงเบาะนั่งมาให้ชิดด้านหน้าแล้วปรับพนักไปด้านหลัง เชื่อมต่อกับเบาะแถวสองในระนาบเดียวกัน จะใช้นอน หรือนั่งเหยียดขายาวปล่อยอารมณ์ ให้นึกไปว่านั่งอยู่บนโซฟาสุดหรูก็มิปาน

หลาก&หลายรถยนต์ - ซัดเต็มข้อ‘ฮอนด้าซิตี้เทอร์โบ’ใหม่ กดเกือบทะลุ180ก.ม./ช.ม.ยังมีให้ไปต่อได้อีก

การจราจรย่านนั้นแม้จะไม่ถึงติดขัดหยุดนิ่ง แต่เพื่อนร่วมทางก็คลาคล่ำเต็มถนน ดีว่าเจ้า ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก มีความคล่องตัวสูง ทั้งขนาดกะทัดรัดและท้ายสั้น เปลี่ยนเลนไปมาได้อย่างสบายมือ

เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร วีเทค เทอร์โบ มีม้าหนุ่มสุดคะนองอยู่ 122 ตัว แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร เลือกโหมดประหยัด (ECON) เพียงพอกับการใช้ในเมือง ไม่ว่าจะจังหวะออกตัวหรือเร่งแซง แม้จะไม่แรงหลังติดเบาะ แต่ก็ไม่มีอาการอืดอาดให้ได้เห็น

เช้าวันรุ่งมุ่งหน้าสู่ จ.ลพบุรี ออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ รถไม่มาก เลือกโหมดขับขี่นอร์มอล ความรู้สึกกระชับขึ้นมานิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโหมดประหยัด การตอบสนองคันเร่งเร็วขึ้น เข็มไมล์ไต่ขึ้นต่อเนื่อง จัดไปเกือบทะลุ 180 ก.ม.ต่อช.ม.และยังมีให้ไปต่ออีกพอประมาณ

หลาก&หลายรถยนต์ - ซัดเต็มข้อ‘ฮอนด้าซิตี้เทอร์โบ’ใหม่ กดเกือบทะลุ180ก.ม./ช.ม.ยังมีให้ไปต่อได้อีก

ช่วงล่างนิ่งไม่มีหวิวหรือสั่นไหว ด้วยตัวรถที่ค่อนข้างเตี้ย รวมถึงเวลาเข้าโค้ง ทำได้อย่างมั่นคง รับรู้ถึงแรงเหวี่ยงเล็กๆ แม้จะเข้าที่ความเร็วสูงก็ตาม เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ขึ้นอีกมาก

ความนุ่มนวลมีมาให้ระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับนุ่มมาก คือมีความหนึบแน่นตามแบบฉบับรถสปอร์ต แฮตช์แบ๊ก เสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารมาค่อนข้างเร็ว 110 ก.ม.ต่อช.ม. เริ่มรู้สึกได้ แต่ไม่ได้รุนแรง จะชัดเจนมากเมื่อทำความเร็วสูง ซึ่งมาพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ติดขึ้นต่อเนื่อง

กลับมาใช้โหมดประหยัดเพราะดูแล้วเหมือนโหมดนอร์มอล เครื่องยนต์ทำงานปั่นไฟเร็วกว่ามาก ที่สำคัญอัตราเร่ง หรือความแรงไม่ได้ต่างกันจนเห็นได้ชัดเจน ใช้ความเร็ว 100-110-120 ต่อเนื่องแทบตลอดเส้นทาง

ถนนโล่งๆ ลองใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ทำความเร็วตามคันหน้าแบบไม่ต้องแตะคันเร่งหรือเบรก ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบใช้ เพราะอยากควบคุมรถด้วยตัวเอง เพื่อความมั่นใจมากกว่า แต่หลายคนอาจชอบเพราะช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าไปได้บ้าง

หลาก&หลายรถยนต์ - ซัดเต็มข้อ‘ฮอนด้าซิตี้เทอร์โบ’ใหม่ กดเกือบทะลุ180ก.ม./ช.ม.ยังมีให้ไปต่อได้อีก

เสียงเตือนน้ำมันใกล้หมดถังดังขึ้น เหลือบดูตัวเลขขับไปแล้ว 514.6 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16.4 ก.ม.ต่อลิตร แม้ค่อนข้างห่างจากสเป๊กที่แจ้งไว้ว่าอัตราสิ้นเปลือง 23.3 ก.ม.ต่อลิตร

แต่ก็นะตัวเลขเคลมกับที่ใช้จริงไม่เคยตรงกันอยู่แล้ว ตัวเลขเท่านี้ถือว่าทำได้น่าประทับใจแล้ว ในระดับเครื่องยนต์เทอร์โบ วิ่งบนถนนมีทั้งรถติดในเมืองและทำความเร็วนอกเมืองแบบที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนสนนราคาค่าตัวของเจ้า ฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก 1.0 ลิตร เทอร์โบ รุ่น SV คันนี้อยู่ที่ 679,000 บาท และยังมีให้เลือกอีก 2 รุ่น ตัวท็อป รุ่น RS ราคา 749,000 บาท หรือจะรุ่นเริ่มต้น รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท เลือกกันได้ตามการใช้ชอบ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน