ด้วยความน่ารัก ตะมุตะมิ ของรถอีวี ซิตี้ คาร์ ขนาดกะทัดรัด ฉางอาน ลูมิน (LUMIN) ทำให้เวลาขับไปจอดที่ไหน ไม่ว่าจะไฟแดง ที่ทำงาน ร้านอาหาร มีคนมาสนใจถ่ายรูปเสียทุกครั้งไป
รับรถกันที่สำนักงานใหญ่ ย่านถ.พระราม 9 ‘น้องง่วง’ คือ ฉายาของรถคันนี้ ด้วยดีไซน์ไฟหน้า และไฟท้าย LED ที่ดูเหมือนคนตาปรือตลอดเวลา สีเขียวพาสเทล ให้อารมณ์มินิมอล สไตล์แฮตช์แบ๊ก 3 ประตู 4 ที่นั่ง
มือจับเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับตัวถัง ฝาท้ายเปิดจากรีโมตคอนโทรลเท่านั้น ไม่มีปุ่มให้เปิดจากด้านใน หรือที่เปิดด้านท้าย
ก่อนออกเดินทาง ‘คุณแทน’ ทัศน์วรรณ ดิษสละ ประชาสัมพันธ์สาวสวย ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบการชาร์จ ที่ตอนนี้ในรุ่น L มีแต่ระบบ AC ที่ต้องใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน
หากต้องการรุ่นชาร์จเร็ว อดใจรออีกนิด ภายในสิ้นเดือนนี้ ลูมิน L DC ที่ชาร์จจาก 30-80% ได้ภายใน 35 นาที เริ่มส่งมอบภายในสิ้นเดือนนี้
รวมถึงการใช้งานอื่นๆ กระจกปรับขึ้นลงไฟฟ้า แต่มาอยู่ที่คอนโซลกลาง ใกล้ปุ่มเกียร์ ที่มีให้หมุนเดินหน้า ถอยหลัง เกียร์ว่าง ส่วนเบรกมือยังเป็นแบบมือดึง ไม่ใช่ไฟฟ้า โหมดการขับขี่มีให้เลือกระหว่าง อีโค กับสปอร์ต ภายในแต่งสีดำ ครีม และส้ม เก๋ไก๋อยู่ไม่น้อย
หมุนซ้ายหมุนขวา มองหาที่ปรับกระจกมองข้าง แต่หาไม่เจอ จนต้องถามคุณแทน จึงได้คำตอบว่าเป็นแบบอัตโนมือ คือ ปรับแมนวลด้วยมือ และไม่มีก้านให้ปรับจากภายใน ต้องลดกระจกลง แล้วใช้มือดันเอง
ฝั่งขวาข้างคนขับไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ฝั่งซ้ายหากเดินทางคนเดียวต้องเอื้อมมือไปปรับอยู่หลายรอบกว่าจะเข้าที่เข้าทาง ให้อารมณ์รถย้อนยุคประมาณหนึ่ง ประตูรถเปิดได้กว้างมาก เผื่อให้คนที่เข้าไปนั่งเบาะหลังเข้า-ออกได้สะดวก
กดปุ่มสตาร์ต ตรงนี้ถือว่าดี เพราะรถอีวีหลายรุ่นแค่เหยียบเบรก รถก็พร้อมทำงาน หนักกว่านั้นบางรุ่นแค่เข้ามาในรถก็พร้อมออกตัว หากเผลอไปโดนเกียร์รถอาจพุ่งไปแบบไม่ตั้งใจได้ การกดปุ่มคือยืนยันความพร้อมในการเดินทาง
ดูหน้าจอข้อมูล แบตเตอรี่มีไฟฟ้าอยู่ 79% วิ่งได้ระยะทางอีก 235 ก.ม. แต่หากชาร์จเต็ม 100% จะวิ่งได้ 301 ก.ม. ขณะที่ความเร็วสูงสุดในสเป๊กแจ้งไว้ว่า 101 ก.ม.ต่อช.ม. เลือกใช้โหมดอีโค
แม้การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่น แต่จากขนาดสุดแสนกะทัดรัด รวมถึงอาศัยความน่ารัก เปิดไฟเลี้ยวปุ๊บ คันหลังชะลอให้เข้าปั๊บ เบี่ยงซ้าย แซงขวา แบบชนิดไม่มีใครหงุดหงิดใส่
กำลังของมอเตอร์ ที่แม้จะดูเหมือนน้อย เพราะมีเพียง 48 แรงม้า แรงบิด 83 นิวตัน-เมตร แต่ช่วงออกตัวถือว่าทำได้ดีอยู่พอประมาณ ไม่ถึงกับอืดเป็นเรือเกลือ
ขับไป 59 ก.ม. แบตเตอรี่เหลือ 52% วิ่งได้อีก 154 ก.ม. ไม่เสี่ยง ดีกว่า มีเวลาว่างให้ชาร์จได้อยู่พอประมาณ หักพวงมาลัยเข้าสำนักงานใหญ่ กฟภ. ย่านงามวงศ์วาน
รับรู้ถึงความช้าของระบบชาร์จ AC เพราะเวลา 1 ช.ม. ไฟฟ้าในแบตเตอรี่ขึ้นมา 10% หากชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาประมาณ 10 ช.ม. ตามสเป๊กที่บอกไว้
วิ่งเข้าถ.วิภาวดี ถนนค่อนข้างโล่ง เพิ่มน้ำหนักที่คันเร่ง โดยยังอยู่ในโหมดอีโค ความเร็วค่อยๆ มา จนไปสุดอยู่ที่ 83 ก.ม.ต่อช.ม. เอ๊ะยังไง ไหนว่าได้ 101 ก.ม.ต่อช.ม.
ลองเปลี่ยนเป็นโหมดสปอร์ต รู้สึกได้ถึงความกระชับ คราวนี้ความเร็วไปสุดอยู่ที่ 109 ก.ม.ต่อช.ม. และเวลาเร่งแซงทำได้ดีขึ้น
ช่วงล่างค่อนข้างแข็งหากเทียบกับรถซีดาน แต่ไม่ถึงกับกระด้างเมื่อเทียบกับหน้าตา ที่นึกไว้ว่าน่าจะออกแนวนุ่มนิ่ม เสียงที่เข้ามาในห้องโดยสาร ช่วงความเร็วต่ำ มีเสียงสังเคราะห์ เพื่อให้คนเดินถนนได้รู้ว่ามีรถวิ่งมา ส่วนความเร็วสูง เสียงมอเตอร์ค่อนข้างดัง จนบางครั้งทำให้รู้สึกเครียดตาม
นักเลงรถหัวใจสีเขียวที่ต้องการเรียนรู้การใช้งานรถอีวี ไม่รีบร้อนเดินทางไม่นอกลู่นอกทาง แบบไว้ใช้ซื้อกับข้าวหน้าปากซอย รับ-ส่งลูกไปโรงเรียนฉางอาน ลูมิน L ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ กับราคาค่าตัว 479,000 บาท
แต่ถ้าจะรอรุ่นชาร์จเร็ว ลูมิน L DC ค่าตัวขยับเพิ่มขึ้น 20,000 บาท เป็น 499,000 บาท ตรงนี้ต้องพิจารณาตามการใช้งานว่าเหมาะสม และคุ้มค่าหรือไม่อย่างไร
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ