หากให้ไล่เรียงรถอีวี ที่ร้อนแรงที่สุดในบ้านเรา เอ็มจี 4 (MG4) เป็นรุ่นหนึ่งที่อยู่ในอันดับต้นๆ ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ยังมีเทคโนโลยีที่อัดแน่น ทำให้สมรรถนะโดดเด่นเร้าใจ
จนได้รับการคัดเลือกให้เป็น รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยม ปี 2566 (THAILAND EV OF THE YEAR 2023) จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เมื่อปลายปีที่แล้ว
ล่าสุดค่ายเอ็มจี ได้เลือกเอ็มจี 4 มาผลิตในโรงงานที่บ้านเรา ส่งผลให้ราคาถูกลง จากที่น่าสนใจอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นที่กล่าวขวัญในบรรดานักเลงรถหัวใจสีเขียวมากยิ่งขึ้น
แม้ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ จะเคยทดสอบกันไปแล้ว ในช่วงเปิดตัวใหม่ๆ แต่เป็นการขับนอกเมือง ว่าแล้วตัดสินใจติดต่อเข้าไปหาพีอาร์ ‘สุภกิจ วิเศษไพฑูรย์’ แห่งเอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย เพื่อขอยืมมาทดสอบการใช้งานในเมืองอย่างจริงจัง
ได้คำตอบให้เข้าไปรับรถได้ทันที ที่สำนักงานใหญ่ อาคารสีลม คอมเพล็กซ์ ชื่อชั้นของถนนสีลม ใครได้ยินนึกภาพการจราจรออกในทันที ว่าติดขัดเพียงใด ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ แม้จะเลือกไปเวลาที่คิดว่ารถไม่น่าจะติด บ่ายต้นๆ พี่ใหญ่น้องเล็ก หนาแน่นเต็มทุกเลน แต่ด้วยความที่เอ็มจี 4 รุ่น X เงียบ นุ่มนวล คลายความเครียดไปได้อย่างมาก แม้การจราจรจะค่อนข้างสาหัสก็ตาม
กำลังจากมอเตอร์เรียกมาใช้งานได้สูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ ความจุ 49 kWh รวดเร็วทันใจ มากันตั้งแต่ตีนต้น ตามน้ำหนักเท้าที่กดลงไปบนแป้นคันเร่ง แม้จะอยู่ในโหมดประหยัดก็ตาม
ช่วยให้การเร่งแซงซ้าย-ขวา เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องกังวลว่าจะไปขวางหูขวางตาเพื่อนร่วมทาง การเปลี่ยนเลน หากไม่เปิดไฟเลี้ยว เสียงเตือนดังขึ้น พร้อมกับพวงมาลัยถูกหน่วง ให้กลับอยู่ในเลนแบบสุดๆ
เป็นหนึ่งในฟังก์ชันระบบความปลอดภัย ที่มีมาให้เต็มคัน ทำเอาตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะแรงดึงที่ค่อนข้างหนักหน่วง แต่หากเปิดไฟเลี้ยว ระบบจะไม่ทำงาน เพราะรับรู้ว่าตั้งใจเปลี่ยนเลน
การเลือกโหมดการขับขี่ ทำได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มบนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เริ่มต้นทุกครั้งที่โหมดนอร์มอล จากนั้นเลือกไปที่โหมดสปอร์ต โหมดคัสตอม สำหรับการขับขี่เมื่อใช้ความเร็วสูง และยังมีโหมดสโนว์ ใช้เวลาเมื่อเจอฝน เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น
ขับในเมืองเดี๋ยวหยุด เดี๋ยวเคลื่อนตัว ตัดสินใจเลือกใช้โหมด Auto Vehicle Hold ที่ช่วยลดความเมื่อยล้า ในการกดแป้นเบรกนานๆ
ขับกันไปสักพัก เวลาถอนคันเร่ง รู้สึกถึงอาการหน่วงที่ค่อนข้างหนักอยู่ เข้าเมนูเลือกตั้งค่าการชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ เมื่อชะลอรถให้เป็นแบบต่ำ ทำให้การขับขี่เป็นธรรมชาติ สนุกขึ้นอย่างมาก
แต่มีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปปรับใหม่ทุกครั้ง เพราะตัวรถจะไม่จำค่าที่ตั้งไว้ กลับไปที่ค่ามาตรฐานเมื่อสตาร์ตรถใหม่ทุกครั้ง
ดีไซน์ของเจ้าเอ็มจี 4 รุ่น X เอ็มจี 4 พัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC นวัตกรรมล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว หลังคาแบบทูโทน ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER
ภายในดีไซน์เรียบง่าย พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชัน หน้าจอข้อมูลขนาด 7 นิ้ว ชัดเจนสบายตา หน้าจอกลางระบบสัมผัส 10.25 นิ้ว รองรับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์
เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง ปุ่มเกียร์ใช้งานด้วยการหมุน บิดขวาเดินหน้า บิดซ้ายถอยหลัง กดตรงกลางเบาๆ เป็นเกียร์ P ใกล้กันมีเบรกมือไฟฟ้า และที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
ตอนรับรถไฟฟ้าในแบตเตอรี่มีอยู่ 94% ระยะทางที่วิ่งได้ 356 ก.ม. วิ่งทดสอบไปทั้งหมด 176 ก.ม. ไฟฟ้าที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ 45% ระยะทางที่วิ่งได้อีก 169 ก.ม. โหล่งโจ้งแล้วทำระยะทางได้ประมาณ 350 ก.ม. กับการชาร์จเต็ม 100% ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง หรือขับไป-กลับ วันละไม่เกิน 200 ก.ม.
ใครที่มองหารถอีวีขับสนุก ชาร์จเต็มวิ่งได้ระยะทางพอประมาณ สมรรถนะและความปลอดภัยได้มาตรฐาน เอ็มจี 4 ถือเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม แวะไปทดลองขับได้ที่โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศ
แต่ถ้าอยากได้ไปขับฟรีๆ เพียงร่วมสนุกกับแคมเปญ ‘ข่าวสด-มติชน ปารีส เกมส์ เชียร์สนุก ลุ้นโชค’ ด้วยการเลือกว่านักกีฬาทีมชาติไทย จะได้เหรียญทองในโอลิมปิกปารีสเกมส์หรือไม่ แล้วส่งมาร่วมลุ้นรางวัล ภายในวันที่ 11 ส.ค.นี้
ไม่แน่รถอีวี เอ็มจี 4 รุ่น X มูลค่า 809,900 บาท อาจเป็นของคุณก็เป็นได้
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ