เตรียมมาเปิดตัวบ้านเราอีกหนึ่งค่าย สำหรับแบรนด์รถยนต์จากแดนมังกร “ริดดาร่า” (RIDDARA) แต่งานนี้บอกเลยว่าแตกต่างจากทุกค่าย เพราะเป็นรถปิกอัพอีวี (ไฟฟ้า 100%)
และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ทั้งตัวแบรนด์ และตัวรถ งานนี้ทีมงาน ริดดาร่า ออโต้โมบาย ประเทศไทย นำโดย ผู้บริหารสาว ณิชา ตันติภักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และประชาสัมพันธ์ พาสื่อมวลชนไปทำความรู้จักกันถึงถิ่นกำเนิดเมืองหางโจว ประเทศจีน
• เริ่มกันที่สำนักงานใหญ่ ริดดาร่า เป็นหนึ่งแบรนด์ ภายใต้ร่มเงาของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน จีลี่ โฮลดิ้ง (Geely Holding Group) บริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ติดอันดับในลิสต์ Fortune Global 500 ซึ่งเป็นการจัดอันดับประจำปีของบริษัทชั้นนำทั่วโลก เป็นเวลา 12 ปีติดต่อกัน
ด้วยแรงผลักดันจากนวัตกรรม คุณภาพ และความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ยานยนต์ที่ยอดเยี่ยม เราจึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก
มีรถยนต์หลากหลายแบรนด์ อาทิ ZEEKR อีวีหรู ที่เปิดตัวบ้านเราไปหมาดๆ Polestar และที่ดูคุ้นหูคุ้นตาหน่อย คือ วอลโว่ คาร์ และรถสไตล์สปอร์ต โลตัส
โดยภายในพื้นที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือน มีรถทุกแบรนด์มาจัดแสดง เพื่อให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ รวมถึงเทคโนโลยี ที่พัฒนากันมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่อง
หวัง ต้าเสวี่ย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน จีลี่ ริดดาร่า ยืนยันความสำเร็จถึงการเป็นรถปิกอัพอีวี อันดับ 1 ในประเทศจีน พร้อมทั้งได้เริ่มส่งออกไปยังประเทศ ที่ขับรถพวงมาลัยซ้ายไปแล้วกว่า 10 ประเทศ
และประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางต่อไป และเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดรถพวงมาลัยขวา มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด และผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งตามความต้องการ โดยบางรุ่นอาจจะมีการแนะนำก่อนประเทศจีนด้วยซ้ำ
• ไปต่อกันที่โรงงานผลิตรถปิกอัพอีวี ริดดาร่า Radar Zibo Smart Factory ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนรวม 15,300 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 76,500 ล้านบาท ครบวงจรตั้งแต่ปั๊มขึ้นรูป ประกอบ พ่นสี
กระบวนการเคลือบผิวแบบปลอดน้ำ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 60% เมื่อเทียบกับกระบวนการแบบดั้งเดิม และอัตราการกำจัด VOC ในก๊าซไอเสียจากการเผาไหม้คือ 99% ถือเป็นโรงงานประหยัดพลังงานสีเขียวชั้นนำ
ใช้หุ่นยนต์ KUKA ซึ่งมีความแม่นยำสูงในการผลิตรถ ทำให้เป็นโรงงานที่มีพนักงานอยู่ไม่มาก ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ แม้จะมีกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คัน ต่อปี
นอกจากในส่วนของโรงงานแล้ว ยังมีลู่วิ่งทดสอบรถยนต์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศจีน ที่รวมการทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์ การสั่นสะเทือน การนั่งโดยสาร และการทดสอบคุณสมบัติการขับขี่แบบออฟโรด
มีความยาว 2.5 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยส่วนทดสอบที่แตกต่างกันถึง 21 แบบทดสอบ โดยออกแบบตามสถานการณ์การใช้งานจริง
ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบเหมือนรถยนต์ทั่วไป ทดสอบการบิดตัวของช่วงล่าง และโครงสร้างทดสอบการเสถียรภาพระบบกันสะเทือน และการยึดเกาะถนน รวมถึงการทดสอบถนนที่มีฝาปิดท่อ (ตรงนี้เหมาะกับถนนบ้านเราเสียจริงๆ)
การตรวจสอบคุณสมบัติทางด้านการขับขี่อัจฉริยะ ของระบบพลังงานไฟฟ้า 100% ความสามารถ และป้องกันถนนลุยน้ำ พื้นที่จอดรถอัตโนมัติ ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้จำลองสภาพอากาศ เพื่อใช้ในการทดสอบ ตั้งแต่ฝนตกเล็กน้อยไปจนถึงฝนตกหนักมาก รวมถึงเซ็นเซอร์การตรวจจับน้ำฝน เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน
พร้อมทั้งมีการทดสอบระบบอื่นๆ อีก เช่น การชาร์จเร็ว การชาร์จช้า ทดสอบระบบ OTA การควบคุมระยะไกล การอัพเกรดซอฟต์แวร์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน ใช้งานได้จริง ก่อนออกจากโรงงาน
• จากนั้นพาไปยังสนามทดสอบ ในรูปแบบออฟโรด เพราะทางริดดาร่า มุ่งหวังเจาะกลุ่มเป้าหมาย ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง แคมปิ้ง รวมถึงกลุ่มครอบครัว
ริดดาร่า มี 2 รุ่นย่อย โดยทั้งหมดเป็นปิกอัพ 4 ประตู RD6 ขับเคลื่อนสองล้อ กำลังมอเตอร์ 268 แรงม้า แบตเตอรี่มี 2 ขนาด แบตเตอรี่ 63 kWh วิ่งได้ระยะทาง 377 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และแบตเตอรี่ 73 kWh วิ่งได้ระยะทาง 437 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ขณะที่อีกหนึ่งรุ่น HORIZON 4WD ขับเคลื่อนสี่ล้อ สำหรับสายลุย กำลังมอเตอร์ 422 แรงม้า แบตเตอรี่มีขนาดเดียว kWh วิ่งได้ระยะทาง 414 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ก่อนการทดสอบมีรถจอดให้ชมอยู่หลายคัน ภายนอกคล้ายกับรถปิกอัพทั่วไป กระจังหน้าแบบทึบตามแบบฉบับรถอีวี ด้านหน้ามีโลโก้ขนาดใหญ่ มองเห็นแต่ไกลว่านี่คือปิกอัพอีวี ริดดาร่า
ภายในหน้าจอกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย รวมถึงแสดงภาพจากกล้องมองรอบคัน 540 องศา ฟังไม่ผิด ปกติเคยได้ยินแต่ 360 องศา ส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือกล้องใต้ท้องรถ เหมาะกับการขับในเส้นทางออฟโรด อันอาจมีอุปสรรคที่คาดไม่ถึง
สนามทดสอบแม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ ไม่ถึง 2 ก.ม. แต่เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่ทางลูกรัง ทางหลุมบ่อ ทางที่มีร่องลึกจากการเซาะกร่อน และเนินชัน
ทีมงานใช้ริดดาร่า รุ่น HORIZON 4WD ขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย รอบแรกเป็นผู้โดยสาร ดูเส้นทางว่าไปทางไหน และต้องเจอกับอะไรบ้าง เลือกนั่งเบาะหลัง พื้นที่ไม่ต่างจากปิกอัพ 4 ประตูทั่วไป
พนักหลังค่อนข้างตรง หากนั่งทางไกล อาการเมื่อยล้าถามหาได้ง่ายๆ ดีว่ามีช่องแอร์หลัง ไม่ต้องง้อแอร์จากด้านหน้า รวมถึงหลังคากระจกที่มีม่านผ้า ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภายในห้องโดยสารได้อย่างมาก
ถึงคิวขึ้นทดสอบ ทางลูกรังแม้จะมีหินลอยอยู่พอประมาณ แต่ไม่ได้ทำให้ตัวรถมีอาการหลุดให้ได้รู้สึก ขับผ่านได้ราวกับทางเรียบ
ทางหลุมบ่อ ซ้ายที ขวาที ค่อยๆ หยอด ค่อยๆ ไป รับรู้ถึงช่วงล่างที่ให้ตัวเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้นุ่มนวลชวนฝัน แต่แรงกระแทกที่เข้ามาในห้องโดยสาร น้อยกว่าที่คิดไว้ค่อนข้างมาก
ต่อกันที่เนินชัน หลายคันที่อยู่ข้างหน้า เร่งส่งกันชนฝุ่นตลบ แต่ดูจากสเป๊กที่กำลังเหลือเฟือ รวมถึงความสามารถในการไต่ทางชันได้สูงสุด 95% (แบบไม่มีน้ำหนักบรรทุก)
ไม่ส่ง ไม่เร่ง ใช้เติมคันเร่งเบาๆ เมื่อรู้สึกว่ากำลังเริ่มไม่พอ ตัวรถไต่ขึ้นได้แบบแทบไม่ได้ออกแรงอะไรมาก ขึ้นไปถึงปลายเนิน โดยแทบไม่มีฝุ่นคลุ้งกระจาย
ราคาของเจ้าปิกอัพอีวี ริดดาร่า ที่ประเทศจีน เริ่มต้น 140,000-221,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 700,000 ถึง 1 ล้านบาทนิดๆ
ส่วนราคาขายในบ้านเราจะเป็นเท่าไหร่ โปรดอดใจรอวันเปิดตัวเดือนต.ค.นี้
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ