จูนเหยา” โชว์เทคโนโลยีอัจฉริยะ และสมรรถนะระดับ First Class จากยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก “JY AIR” บนเส้นทาง กรุงเทพฯพัทยา

กรุงเทพฯ, ประเทศไทยบริษัท จูนเหยา ออโต (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ในเครือเดียวกับบริษัท จูนเหยา กรุ๊ป (JuneYao Group) บริษัทแม่ของสายการบินจูนเหยา แอร์ไลน์ (JuneYao Airlines) หนึ่งในสายการบินเอกชนชั้นนำในประเทศจีน เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์เมืองไทย เปิดตัว “JY AIR” ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นแรก

นำเสนอรูปแบบใหม่ของการเดินทาง ด้วยอีกขีดขั้นของเทคโนโลยีการขับเคลื่อน ซึ่งพร้อมตอบรับกระแสความต้องการของผู้ขับขี่ยุคใหม่ ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมการขับขี่ล้ำสมัย เพื่อสร้างความสะดวกสบายเหมือนอยู่บนสายการบินระดับ First Class

ท้าพิสูจน์ด้วยการเชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์เมืองไทยร่วมสัมผัสความล้ำสมัยเป็นครั้งแรกบนเส้นทางกรุงเทพฯพัทยากรุงเทพฯ จากจุดเริ่มต้นที่ Parc Bangna คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ย่าน บางนาศรีนครินทร์

ก่อนมุ่งหน้าสู่ แลนด์มาร์คใหม่แห่งเมืองพัทยาแบบ Free Run เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ณ “Castello Di Bellagio” (แคสเทลโล ดิ เบลลาจิโอ้) ร้านอาหารสไตล์เวสเทิร์น ที่น่าโดดเด่นด้วยรสชาติอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศปราสาท ซึ่งมีแรงบันดาลใจในการสร้างจากประเทศอิตาลี ก่อนจะเดินทางแบบ Free Run อีกครั้ง เพื่อกลับสู่ PARC Bangna รวมเป็นระยะทางไปกลับ ประมาณ 300 กม.

ซึ่งตลอดเส้นทางสื่อมวลชนจะได้สัมผัสกับสมรรถนะของ “JY AIR” ในหลากหลายรูปแบบของการขับขี่ จากทั้ง 2 รุ่นย่อย เริ่มจาก JY AIR รุ่น Standard ที่มากับขนาดความจุแบตเตอรี่ 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ให้พละกำลังสูงสุด 201 แรงม้า (150 kW) และ JY AIR รุ่น Plus ที่มากับขนาดความจุแบตเตอรี่ 64 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ให้พละกำลังสูงสุด 214 แรงม้า (160 kW)

ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมสมรรถนะที่เร้าใจผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งทำอัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 170 กม./ชม. โดยใน JY AIR รุ่น Standard มีระยะทางวิ่งสูงสุด NEDC อยู่ที่ 430 กิโลเมตร ขณะที่ JY AIR รุ่น Plus มีระยะทางวิ่งสูงสุด NEDC อยู่ที่ 520 กิโลเมตร

ทางด้านการชาร์จไฟของ JY AIR ในรุ่น Standard การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 70 กิโลวัตต์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการชาร์จไฟจาก 30% ถึง 80% ส่วน JY AIR รุ่น Plus การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 90 กิโลวัตต์ และใช้เวลาประมาณ 21 นาทีเท่านั้น สำหรับการชาร์จไฟจาก 30% ถึง 80%

โดยนอกจากสมรรรถนะของ “JY AIR” ทั้ง 2 รุ่นย่อย ที่จะได้สัมผัสแล้วเป็นครั้งแรกแล้ว กิจกรรมในครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสกับคุณสมบัติโดดเด่น และเทคโนโลยีสุดล้ำของ “JY AIR” ทั้ง 2 รุ่นย่อย ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย อาทิเช่น แนวคิด “ONE BOX” ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เรื่องความกว้างขวาง สะดวกสบาย

ผสมผสานกับงานดีไซน์ภายใต้หลักแอโรไดนามิกส์ ด้วยแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีอากาศยาน เช่น ช่องดักอากาศบริเวณกันชนหน้า และมุมกันชนหน้า ที่ลงตัวกับสปอยเลอร์ฝากระโปรง และบริเวณใต้ กันชนหลัง รวมถึงงานออกแบบล้ออัลลอยด้วยลวดลาย Turbo Fan ซึ่งทั้งหมดช่วยให้ “JY AIR” มีค่าสัมประสิทธิ์ แรงเสียดทานอากาศที่ต่ำเพียง 0.23 cd เท่านั้น

ภายในห้องโดยสารของ “JY AIR” ที่ได้รับการตกแต่ง และเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อีกทั้งงานดีไซน์ภายนอกภายใต้หลักแอโรไดนามิกส์ ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์โดยสารที่หรูหรา เงียบสงบ และผ่อนคลาย ในระดับเดียวกับสายการบิน First Class ให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร

รวมไปถึงออปชั่นมาตรฐานต่างๆที่สะดวกสบายต่อการใช้งานเช่นหน้าจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้วสำหรับ ผู้ขับขี่ ที่มาพร้อมหน้าจอ Intelligent Display ขนาด 15.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ทั้ง Apple Carplay, Android Auto, Bluetooth, บริการแอปพลิเคชันบนมือถือ และหลังคาพาโนรามาขนาด 2.072 ตร.. สำหรับ JY AIR รุ่น Plus ที่ช่วยสร้างความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ทั้งยังมอบความอเนกประสงค์ในการใช้งานด้วยห้องเก็บสัมภาระขนาด 420 ลิตร ซึ่งปรับเพิ่มเป็น 1,338 ลิตรได้เมื่อพับเบาะหลัง

“JY AIR” มากับความล้ำสมัยด้วยระบบปฏิบัติการ Crystal OS ประสิทธิภาพสูง โดยทีมวิจัย และพัฒนาของจูนเหยา ซึ่งระบบ Crystal OS นี้มีฟีเจอร์ควบคุม และสั่งงานแบบอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ทั้งยังรองรับการตั้งค่าตามสภาพถนนได้แบบเรียลไทม์ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่น

ควบคู่ไปกับมั่นใจจากระบบความปลอดภัยต่างๆตั้งแต่แพลตฟอร์ม SKY EV เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับห้าดาว ที่สามารถรองรับการพัฒนารุ่นรถใหม่สำหรับทั่วโลก และครอบคลุมตั้งแต่ประเภท A ไปจนถึงรถซีดาน คลาส C, SUV, Coupe, MPV และอื่นๆ ตลอดจนโครงสร้างตัวถังที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก CNCAP และ Euro NCAP ระดับ 5 ดาว

เสริมด้วยความล้ำสมัยของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Advanced Driving Assistant System Level 2+ ด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือขั้นสูงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารมั่นใจได้ในทุกการเดินทาง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่ช่วยในการรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, ระบบช่วยจอด, ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่ รถรุ่นนี้ยังได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยระดับสูงตามมาตรฐาน NCAP และ E-NCAP ระดับ 5 ดาว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจได้ในทุกการเดินทาง

โดย “JY AIR” มากับสีตัวรถให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย สีขาว Moon White, สีฟ้า Meteorite Blue, สีเขียว Aurora Green,และ สีดำ Galactic Black พร้อมราคาเริ่มต้น 759,000 บาท สำหรับ JY AIR รุ่น Standard และ 869,000 บาท สำหรับ JY AIR รุ่น Plus

ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบอัจฉริยะของ JY AIR ได้ที่ โชว์รูม พร้อมทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและตอบข้อสงสัย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการหลังการขายที่สต็อกอะไหล่สำรองทุกประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการบริการหลังการขายอย่างรวดเร็วและครบถ้วน

สำหรับผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ JY AIR และโปรโมชันล่าสุด สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ www.juneyaoauto.com และเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/Juneyaothailand ที่จะมีการอัปเดตข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงข่าวสารเกี่ยวกับโปรแกรมการจอง การรับประกัน และสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน