อยุธยายอดเพิ่มเป็น 2 แถมอีก 1 หนุ่มโรงงานชาวปทุม ทำงานที่วังน้อย สั่งกักตัวหมอ-พยาบาลอีก 7
วันที่ 26 มี.ค. ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว โดยมีการตรวจวัดไข้ก่อนเข้าห้องประชุม รวมถึงจัดที่นั่งห่างกัน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ล่าสุดจ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด19 จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ อ.มหาราช และ อ.วังน้อย รายที่ 1 ผู้ป่วย เป็นชาย อายุ 58 ปี มีภูมิลำเนาอ.มหาราช มีประวัติเป็นบุคคลทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 กรณีสนามมวยลุมพินี ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ เข้ารับการตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 23 มี.ค.จากนั้นเดินทางกลับอ.มหาราช
ต่อมาวันที่ 24 มี.ค. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด 19 โรงพยาบาลมหาราช ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร เรียบร้อยแล้ว ผลการสอบสวนโรคผู้ป่วยรายนี้ พบว่า เริ่มป่วยตั้งแต่ 16 มี.ค. และกักตัวอยู่ในบ้านพัก โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้อาศัยร่วมบ้าน คือภรรยา ลูกสาว หลานสาว และผู้สัมผัสเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 7 ราย ได้ส่งตรวจหาเชื้อ และได้กักเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วัน
รายที่ 2 เป็นชายอายุ 23 ปี มีภูมิลำเนา อ.วังน้อย มีประวัติทำงานรับเหมาก่อสร้างในอ.บ้านนา จ.นครนายก และเดินทางกลับมาพักที่หอพักอ.วังน้อย ผู้ป่วยรายนี้ เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 12 มี.ค. และในวันที่ 18 มี.ค.ไปตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.แพทย์รังสิต พบผลบวก ขณะนี้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่ ร.พ.สามโคก จ.ปทุมธานี ผลการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้อาศัยร่วมบ้าน คือภรรยาผู้ป่วยทำงานโรงงานในจ.ปทุมธานี ได้ส่งตรวจหาเชื้อโควิดและให้สังเกตุอาการตนเอง 14 วัน ประสานพื้นที่ในการเฝ้าระวังค้นหาผู้สัมผัส
และยังพบผู้สัมผัสเชื้อ เป็นชาย พักอาศัยอยู่ที่จ.ปทุมธานี ทำงานในโรงงานอ.วังน้อย ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เข้ารับการรักษาตัวที่รพ.ในจ.ปทุมธานี สอบสวนโรคพบผู้สัมผัส คือภรรยา และเพื่อนร่วมงาน จ.ปทุมธานี ได้ส่งตรวจหาเชื้อและให้สังเกตุอาการตนเอง 14 วัน เป็นกรณีที่ทำงานในจ.พระนครศรีอยุธยา และในระหว่างวันที่ 11 – 12 มี.ค.ได้เดินทางมาประชุมโรงงานจึงได้ให้หยุดงานและกักกันผู้สัมผัส 14 วันแล้ว
นายภานุ กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดนี้ ต้องร่วมมือกัน รับผิดชอบตนเองรับผิดชอบสังคม โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยหรือสงสัยติดเชื้อ ขอให้สังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน หากมีไข้ ร่วมกับอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกหายใจลำบากหรืออย่างใด อย่างหนึ่ง ขอให้ไปตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ขอให้ประชาชนติดตามการประกาศจากทางจ.พระนครศรีอยุธยา และขอให้คิดว่าผู้ป่วย คือญาติพี่น้องของเรา อย่าได้ไปรังเกียจ หรือไปกดดันกันทางสังคม
ด้านนพ.พีระ เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ป่วยรายแรก มีบุคลากรทางการแพทย์ 7 ราย ส่งผลตรวจ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ได้ให้หยุดงาน กักตัว และส่งผลตรวจทันทีแล้ว ในส่วนพื้นที่ ที่ผู้ป่วยได้เดินทางไป นั้น ได้มีการประสานทีมสอบสวนโรค ลงพื้นที่หลังจากได้ข้อมูลจากผู้ป่วย และผู้ที่ให้ข้อมูล ได้มีการประสานพื้นที่ต่างๆได้ทำการทำความสะอาด พร้อมแจ้งประชาชนที่อยู่ในจุดนั้น
” ถ้ามีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ ให้เข้าไปพบแพทย์สาธารณสุขใกล้บ้านที่สุด แล้วบอกว่าเราไปในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเราจะตรวจสอบได้ว่าพบเชื้อหรือไม่ ซึ่งทีมตรวจสอบโรคในพื้นที่ ทุกพื้นที่ที่พบผู้ป่วยใช้หลักการเดียวกัน ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เดินทางไปไหนมาไหน ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย ทิ้งช่วงห่าง 1 – 2 เมตร และหมั่นล้างมือให้สะอาด “
