ห้ามดื่มแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
วันที่ 30 มี.ค. นายแพทย์ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เผยว่า จากข่าวที่ประชาชนชาวตุรกี ดื่มเอทิลแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เพราะคิดว่าจะช่วยป้องกัน รวมถึงฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 30 คน อีกราวๆ 20 คน ต้องหามส่งโรงพยาบาล
แม้เอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcoho) จะเป็นชนิดของแอลกอฮอล์ที่สามารถบริโภคได้แต่ด้วยปริมาณความเข้มขั้นแบบบริสุทธิ์ ซึ่งสูงกว่าที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป จะทำให้ผู้ดื่มมีภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ และถึงขั้นเสียชีวิตได้ การใช้แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรค หรือไวรัส ทำได้แค่เพียงภายนอก คือเช็ดทำความสะอาดที่ผิวหนังเท่านั้น
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
นายแพทย์ชลวิทย์ กล่าวว่า การรับประทานแอลกอฮอล์จะตรงเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ไม่ได้ให้สรรพคุณในการฆ่าเชื้อแต่อย่างใด และจะทำให้เกิดพิษต่อร่างกายได้ เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถทำลายเชื้อไวรัสชนิดที่มีชั้นไขมันหุ้ม เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสเริม รวมทั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ระเหยง่ายในอุณหภูมิห้อง มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัส
และแบคทีเรีย ส่วนเมทิลแอลกอฮอล์ (Methy) Alcohol) ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ ใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เช่น ทาสีไม้ เคลือบงา และเป็นเชื้อเพลิงในธรรมชาติ มีความเป็นพิษต่อร่างกาย ระเหยง่ายและดูดซึมได้ทางผิวหนังลมหายใจ เมื่อสูดดมเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ ทำลายเยื่อบุตา อันตรายถึงขั้นตาบอดและเสียชีวิตเมื่อดื่มเข้าไป ห้ามนำเอามาผลิตเป็นเจลล้างมือ
นายแพทย์ชลวิทย์ กล่าวต่อว่า คำถามของประชาชน “สามารถดื่มสุราฆ่าเชื้อโควิดได้หรือไม่” การดื่มสุราเข้าสู่ระบบย่อยอาหารไม่มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งในยุคการระบาดของโรคโควิด ประชาชนควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหาร ครบ 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ จะเป็นการสร้างภูมิต้านทาน ให้สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ ซึ่งหากดื่มสุราอาจส่งผลเสียภูมิต้านทานลดลงได้
