โฆษกสตม.แจง ถูกส.ส.ปชป.กล่าวหา ไม่ส่งข้อมูลต่างชาติกลุ่มเสี่ยงโควิดให้สธ. ยันทำงานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด ส่งไปแล้วกว่า 6 ล้านคน

เมื่อเวลา 11.19 น. วันที่ 31 มี.ค. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม. พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.ตม.1 รองโฆษก สตม. พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผบก.ตม.2 รอง โฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า

จากกรณีข่าว ที่ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ข้อมูลว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ไม่ส่งข้อมูลต่างชาติที่เดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยงให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในพื้นที่กักตัว ต้นเหตุของการตามตัวไม่เจอ จนต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ช่วยตรวจสอบแขกที่พักเพื่อแจ้งไปยังสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ทั้งที่ฐานข้อมูลใหญ่ คือ ตม. ตั้งแต่ชาวต่างชาติเหยียบเข้ามาในประเทศไทย และยังได้อภิปรายในสภาว่า ตม. ควรปรับบทบาทมาเพิ่มเรื่องการเฝ้าระวังโรคข้ามชาติมากขึ้น นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ขอเรียนชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สตม. ตระหนักและเฝ้าระวังต่อปัญหาดังกล่าว จึงได้ตั้ง วอร์รูม ศูนย์บริหารเหตุการณ์เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. และประชุมทุกวันอย่างต่อเนื่อง มีการประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ สตม.นำส่งรายชื่อนักท่องเที่ยวทุกรายทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่เดินทางมาจากประเทศต้นทางเสี่ยง นอกจากนั้นยังจัดรถสายตรวจอัจฉริยะและเจ้าหน้าที่ไปรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหรืออำเภอ ไปติดตามตรวจสอบวัดไข้อุณหภูมิบุคคลดังกล่าวร่วมกับบุคลากรของ สธ.อย่างใกล้ชิด และเป็นไปอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยเฉพาะชาวจีนที่มาจากอู่ฮั่นและกวางโจ ซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว จวบจนถึงปัจจุบัน

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพิ่มเพื่อน

นอกจากนี้ สตม.ยังได้ร่วมกับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และกรมควบคุมโรค ร่วมกันคัดกรองโรค มาตั้งแต่ปลายปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยวางแผนร่วมกันตั้งแต่การจัดหลุมจอดเครื่องบินโดยเฉพาะ การตรวจวัดไข้ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน

เมื่อพบผู้ต้องสงสัยจะส่งรายชื่อให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปทันที และยังได้สั่งการให้ บก.ตม. ต่างๆ สนับสนุนข้อมูล โดยการนำข้อมูลการแจ้งที่พัก จัดส่งให้ ตม.จว. เพื่อประสานกับ สธ.จว. ในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบที่พักทุกวัน

ยันส่งข้อมูลแล้วกว่า6ล้านราย

สตม.มีการคัดกรองผู้เดินทางและส่งข้อมูลให้ สธ. ตามข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข สะสมถึง 29 มี.ค. ทางสนามบิน 4,333,359 คน ท่าเรือ 129,292 คน ด่านพรมแดน 1,729,178 คน รวมถึงข้อมูลการขออยู่ต่อและการแจ้งที่พัก ของ บก.ตม.1 (ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ) 133,812 คน

ปัจจุบัน สตม ยังดำเนินการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยนำส่งรายชื่อ ให้แก่ 1.สธ. 2.ผวจ. 3.ผบก.ภ.จว. ซึ่งเจ้าหน้าที่ สตม ได้ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด

นอกจากนี้ในส่วนที่พักอาศัยที่ไม่ได้เป็นโรงแรมตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรม เช่น เกทส์เฮาท์ โฮมสเตย์ คอนโด(นิติบุคคล) ตลอดจนการให้ต่างชาติพักบ้านส่วนตัว ฯลฯ ก็ได้จัดเก็บข้อมูลไว้อย่างต่อเนื่อง และไปตรวจสอบจับกุมหากพบมีการกระทำความผิด ไม่ปฎิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอดอยู่แล้ว

จึงขอชี้แจงมายังพี่น้องประชาชน ให้เข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ให้ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานสูงสุดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน