ผวาโควิดทั้งโบกี้! มาจากปากีฯขึ้นรถไฟกลับบ้านที่นราฯจู่ๆช็อกดับ ประจวบฯเจออังกฤษติดเชื้อรายที่12
วันที่ 31 มี.ค. นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มที่ อ.หัวหิน เป็นรายที่ 12 คือชายชาวอังกฤษ อายุ 51 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวที่ อ.หัวหิน มีอาการป่วยและไปขอรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 โดยชายชาวอังกฤษรายล่าสุด มีประวัติเป็นเพื่อนกับผู้ป่วยติดเชื้อชาวอังกฤษรายที่ 3 ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 17 มี.ค. และสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 3
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
” ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายที่ 12 เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างนำผู้ป่วยรายที่ 12 จากที่พักไปโรงพยาบาลเพื่อนำเข้าสู่มาตรการควบคุมโรค ส่วนพนักงานเจ้าหน้าที่โรงแรมที่พักซึ่งผู้ป่วยรายที่ 12 อาศัยอยู่ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ทั้งหมดต้องกักตัว 14 วัน เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ป่วยรายที่ 12 เก็บตัวอยู่ในที่พักตลอดหลังจากทราบว่าเพื่อนของตนเองป่วยติดเชื้อเป็นรายที่ 3 โดยมีการสั่งอาหารมารับประทานที่ห้อง ทำความสะอาดห้องด้วยตัวเอง”
นายแพทย์สุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พบผู้เสียชีวิตบนรถไฟขบวนรถด่วนที่ 37 บางซื่อ – สุไหง โกลก โบกี้ที่ 4 เลขที่นั่ง 28 เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 31 มี.ค.ผู้เสียชีวิตคือ นายอนันต์ อายุ 57 ปี ชาว จ.นราธิวาส เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปสถานีรถไฟบางซื่อ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาด เพื่อเดินทางกลับไป จ.นราธิวาส แต่เป็นลมหมดสติและเสียชีวิตระหว่างรถไฟกำลังแล่นถึงสถานีรถไฟ อ.ทับสะแก
เบื้องต้น พบประวัติเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง จากนั้นแพทย์ได้นำเนื้อเยื่อและสารคัดหลั่งจากจมูกส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สมุทรสงคราม เพื่อหาเชื้อโควิด 19 คาดว่าจะทราบผลภายในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 31 มี.ค. หลังเกิดเหตุได้แจ้งให้ภรรยาที่ จ.นราธิวาส ทราบเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม แม้ผู้เสียชีวิตจะยังไม่ใช่ผู้ยืนยันติดเชื้อโควิด 19 แต่ได้มีการนำร่างใส่ถุงซิปล็อก 3 ชั้นก่อนนำไปฝัง โดยจะมีมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคตามขั้นตอน ส่วนผู้ที่เดินทาง 40 รายร่วมโบกี้รถไฟกับผู้เสียชีวิต ขณะนี้มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว
