วันที่ 13 เม.ย. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด กรมราชทัณฑ์ได้เร่งการพักการลงโทษและการลดวันต้องโทษ ผู้ต้องขัง ที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ โดยห้วงเวลาที่ผ่านมาสามารถพักการลงโทษผู้ต้องได้จำนวนมากถึง 8,000 ราย ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาปกติ 2 เท่า

ในส่วนการเฝ้าติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดในเรือนจำนั้น กรณีสถานกักขังจังหวัดปทุมธานี มีการรับตัวผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และพ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ศ. 2558 ตั้งแต่วันที่ 5-12 เม.ย. รวม 458 ราย จึงได้ตรวจสอบและติดตามอาการผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกคนอย่างใกล้ชิด โดยแยกกักขังไว้เพื่อเฝ้าระวังควบคุมดูแลตามแผนและมาตรการที่กำหนด

สถานการณ์ โควิด

สำหรับกรณีเรือนจำอำเภอเบตง จ.ยะลา มีผู้ต้องขังเข้าใหม่ คดีพ.ร.บ.ยาเสพติด มีอาการไข้สูงหายใจเหนื่อยหอบ จึงประสานโรงพยาบาลเบตง รับตัวผู้ต้องขังไปสังเกตอาการที่โรงพยาบาล ขณะนี้ผลตรวจออกแล้วว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนเรือนจำกลางปัตตานี พบผู้ต้องขังมีอาการไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ หลังพ้นจากการกักตัว เมื่อวันที่ 4 เม.ย. จึงได้ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะนี้อาการทุเลา อยู่ระหว่างติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่ว่า สรุปสถานการณ์ในวันนี้ (13เม.ย.) ไม่มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 (มีติดเชื้อรายเก่า 2 ราย ซึ่งปัจจุบันหายแล้ว) และมีเจ้าหน้าที่ 1 ราย (อยู่ระหว่างรักษาตัว) ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์จะติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังทุกเรือนจำอย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อจำกัดจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะเสี่ยงและติดโรคระบาดนี้ให้น้อยที่สุด โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค รวมทั้งสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ อย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน