สธ.เร่งสรุปประวัติ ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ สั่งเฝ้าระวังคนใกล้ชิด ชี้ ไม่เกินคาด หลังผ่อนคลายระยะ 2 ต้องมีผู้ป่วยเพิ่ม วอนอย่าการ์ดตก

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 3 รายในวันนี้ (21 พ.ค.) 1 รายพบเชื้อในสถานกักกันของรัฐ เดินทางกลับจากฟิลิปปินส์ ส่วนเคสที่น่าสนใจ ใน กทม. 2 ราย พบว่า ไปในสถานที่ชุมชน โดยรายที่ 1 ชายไทยอายุ 72 ปี หากดูไทม์ไลน์จะมีไปโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นสถานที่เสี่ยง ไปตัดผม ซึ่งร้านตัดผมเพิ่งผ่อนปรนไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนอีก 1 รายเป็นชายชาวเยอรมันอายุ 42 ปี อาศัยอยู่กทม. มีภรรยาเป็นคนไทย แต่มีประวัติเดินทางไป จ.ชัยภูมิ ทีมสอบสวนโรค ได้ข้อมูลว่า ได้ไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ

“ทั้ง 2 ราย ถือว่าเป็นการติดเชื้อในชุมชน ภายในประเทศ และมีกิจการที่สัมพันธ์กับมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 และระยะ 2 โดยเป็นเรื่องที่คาดการณ์ ว่า อาจเกิดขึ้นได้ เพราะเมื่อไหร่การ์ดตก ล้างมือไม่ตลอด สวมหน้ากากอนามัยหน้ากากผ้าไม่ตลอด ไปสถานที่ชุมชนโดยไม่จำเป็นย่อมมีความเสี่ยง และ 2 รายนี้ไม่สัมพันธ์กับผู้ป่วยก่อนหน้า แต่เกิดจากช่วงการเปิดกิจการกิจกรรม จึงต้องฝากพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มหลักเดียว เราก็ไม่อยากเห็นตัวเลขมากกว่านี้” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

เมื่อถามถึง ไทม์ไลน์การสัมผัสเชื้อทั้งโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ต้องเรียนให้ทราบว่า การสอบสวนโรคต้องอาศัยเวลา เบื้องต้นหลังพบผู้ป่วยยืนยัน เมื่อตรวจเชื้อออกมาแล้ว ทางทีมสอบสวนโรคจะต้องคุยก่อนว่า ผู้ป่วยสามารถคุยได้หรือไม่ เพื่อสอบประวัติเบื้องต้น

เมื่อทราบไทม์ไลน์ ทั้งการไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อทำซีทีสแกน หรือการไปร้านตัดผม เพื่อตัดผม ส่วนจะมีมากกว่านี้หรือไม่ ก็อยู่ที่ความจำของผู้ป่วยราย 72 ปี ก็ขอดูก่อนว่า ทีมสอบสวนโรคได้ข้อมูลและลงไปพื้นที่ ทั้งโรงพยาบาลอะไร ร้านตัดผมอะไร และห้วงเวลาไหน ซึ่งเวลานั้นมีการสัมผัสใกล้ชิดกับใครบ้าง ใครสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ เสี่ยงสูง ก็จะได้วิเคราะห์ออกมา จริงๆ ร้านตัดผมต้องไม่มีคนอื่น เพราะเราไม่ได้ให้มานั่งรอที่ร้านตัดผม ต้องดูทั้งหมด ทั้งผู้สัมผัสร่วมบ้านด้วย ต้องดูคนใกล้ชิดที่สุด ทั้งครอบครัว บุตรหลาน ต้องติดตามและเก็บตัวอย่างตรวจว่า ยังมีใครบ้างที่มีโอกาสรับเชื้อจากผู้ป่วยคนนี้

“หากรพ. หรือร้านตัดผม มีการลงระบบไทยชนะ หากไปและมีการเช็กอินก็จะมีข้อมูลตรงนี้ ซึ่งเราจะติดตามและสอบสวนโรคได้ ว่ามีใครบ้างเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่ห้วงเวลา จากนั้นก็จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาตรวจ” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

นพ.อนุพงศ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากย้ำ ทั้งการเดินทางจากต่างประเทศ เราคิดว่ามีมาตรฐานดีระดับหนึ่ง อย่างมีพี่น้องคนไทยเดินทางกลับจากบราซิล รัสเซีย โดยเมื่อวานมีผู้เดินทางเข้ามาจาก 2 ประเทศ ที่เป็นกลุ่มประเทศที่มีการติดเชื้อสูง ก็มีระบบในการตรวจสอบ ส่วนการติดเชื้อในชุมชนต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการช่วยกันปฏิบัติตัวป้องกันโควิด อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 1 ก.ค.ที่มีการเรียกร้องเปิดโรงเรียน ตรงนี้ก็ต้องเตรียมพร้อมให้ดี เพราะการเปิดก็มีความเสี่ยงติดเชื้อได้ ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็จะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการเตรียมมาตรการความพร้อมป้องกันโรคในเด็กนักเรียนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน